Sunday, January 11, 2009

"แอปเปิล"ปูพรมขยายช่องทางขาย ผนึก"เพาเวอร์บาย"ขนทัพสินค้ารุกทำตลาดเต็มสูบ


           "แอปเปิล" ขยายช่องทางขาย รุกจับมือยักษ์ค้าปลีก "เพาเวอร์บาย" เปิด "แอปเปิลช็อป" ประเดิม 2 สาขา ลาดพร้าว-บางนา ตั้งเป้าปีหน้าขยายเพิ่มอีก 14 สาขา เผยไตรมาสที่ 4 กำลังซื้อชะลอ ราคาคอมพิวเตอร์ตกฉุดยอดขายไม่เข้าเป้า วางแผนบุกตลาด "แอ็กเซสซอรี่" ช่วยเสริมรายได้

          นายภวัต ตั้งควิวิช ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารสินค้าคอมพิวเตอร์และโอเอ บริษัท เพาเวอร์บาย จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อช่วงปลายเดือน พ.ย.ที่    ผ่านมา เพาเวอร์บายได้ร่วมมือกับบริษัท      แอปเปิล ประเทศไทย เปิด "Apple shop @POWER BUY" 2 สาขา คือ เพาเวอร์บาย ลาดพร้าว และบางนา พื้นที่ประมาณ 50 ตร.ม./สาขา หลังจากที่เมื่อต้นปีได้ทดลองเปิดโมเดลดังกล่าวที่เพาเวอร์บาย สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยในร้านจะมีสินค้าแบรนด์แอปเปิล เช่น iMac, MacBook MacBook Air และ iPod เจาะกลุ่มครอบครัวและกลุ่มวัยทำงาน

          กลุ่มลูกค้าเพาเวอร์บายส่วนใหญ่เป็น กลุ่มลูกค้าระดับบีขึ้นไป ซึ่งตรงกับกลุ่ม  เป้าหมายของแอปเปิล ขณะเดียวกันทาง    แอปเปิลต้องการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายนอกจากที่ผ่านทางร้าน iStudio และ iBeat โดยแอปเปิลจะให้ความช่วยเหลือด้านการวางภาพลักษณ์ของสินค้า การเทรนนิ่งพนักงาน เป็นต้น

          นายภวัตกล่าวว่า ในปีหน้าบริษัทมีแผนเปิด "Apple shop @POWER BUY" อีก 14 สาขา จากเพาเวอร์บายทั้งหมด 80 สาขา โดยดูที่ทำเลและกลุ่มเป้าหมายเป็นหลัก

          "แอปเปิลช็อปต่างจาก iStuido คือ จะมีโปรโมชั่นที่หลากหลายกว่า รวมทั้งอาจมีโปรโมชั่นร่วมกับสินค้าอื่นๆ ที่จำหน่ายในเพาเวอร์บาย และได้รับสิทธิ์สะสมคะแนนบัตรเดอะวันการ์ด เป็นต้น"

          แม้ว่าเศรษฐกิจจะมีปัญหา แต่คาดว่าจะไม่กระทบต่อกำลังซื้อสินค้าแอปเปิล เพราะแอปเปิลมีกลุ่มลูกค้าที่เหนียวแน่นอยู่แล้วและเป็นลูกค้าระดับกลางถึงบน อาจจะมีการชะลอตัวแต่เชื่อว่ายอดขายไม่ตก โดยเพาเวอร์บายต้องการสร้างยอดขายให้หลากหลาย ทั้งจากโน้ตบุ๊ก เดสก์ทอป มากกว่า ไอพอดอย่างเดียว

          นายภวัตกล่าวอีกว่า สำหรับยอดขายสินค้ากลุ่มคอมพิวเตอร์และโอเอของ    เพาเวอร์บาย คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% ของรายได้ทั้งหมด โดยไตรมาสที่ 4 ที่ผ่านมาพบว่าคอนซูเมอร์มีการชะลอการซื้ออย่างชัดเจน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจและหลังจากงานคอมมาร์ตทำให้ดีมานด์ในตลาดลดลง รวมถึงราคาของสินค้าไอทีที่ลดลง โดยเฉพาะโน้ตบุ๊ก แม้ว่าการขายสินค้าไอทีจะเพิ่มขึ้น 20% แต่มูลค่าลดลง 10% ทำให้ปีนี้ยอดขายในส่วนที่ดูแลต่ำกว่าเป้าเล็กน้อย

          สำหรับปี 2552 คาดว่าคอนซูเมอร์จะเน้นราคาเป็นหลัก ดังนั้นในส่วนของสินค้าไอทีจะต้องขายจำนวนมากขึ้นและสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า โดยเฉพาะแอ็กเซสซอรี่ที่จะบุกมากขึ้น เช่น เมาส์ ฮาร์ดดิสก์ต่อภายนอก แผ่นดีวีดี บลูเรย์ เป็นต้น เพื่อเข้ามาช่วยเสริมรายได้

No comments:

Post a Comment