Thursday, January 29, 2009

โมบาย เอ็กซ์โป ขายสะพัด1.2พันล้าน

          งานไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป 2009 เปิดตลาดนัดมือถือ ดึงกว่า 30 แบรนด์กระตุ้นการซื้อ คาดเงินสะพัดกว่า 1.2 พันล้านบาท จับตา "ไอโฟน 3จี-เอชทีซี" สร้างสีสันสินค้าไฮเอนด์ ด้านไอ-โมบาย ขนราคาต่ำสุด 890 บาทตีตลาดล่าง อินเตอร์แบรนด์อื่นๆ เปิดตัวมือถือใหม่กว่า 10 รุ่น 

          ซึ่งงานดังกล่าวเป็นการรวมตัวของโทรศัพท์มือถือกว่า 30 แบรนด์ ทั้งอินเตอร์แบรนด์และเฮ้าส์แบรนด์ ซึ่งเตรียมโปรโมชั่นพิเศษ มากระตุ้นการตัดสินใจซื้อ ทั้งลด แลก แจก แถม รวมถึงการซื้อผ่านบัตรเครดิตผ่อน 0% เวลา 10 เดือน โดยคาดการว่าจะมีผู้เข้าชมกว่า 7 แสนราย เงินสะพัดประมาณ 1.2 พันล้านบาท ตลอดเวลา 4 วันของานตั้งแต่ 29 ม.ค.-1 ก.พ. 2552

          ส่วนหนึ่งสำคัญที่ทำให้งานคึกคักคือ การวางจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ "ไอโฟน 3จี" แบบไม่ติดสัญญา พร้อมรับเครื่องได้เลย แบ่งเป็น เครื่อง 16 กิกะไบต์ ราคา 28,500 บาท และรุ่น 8 กิกะไบต์ ราคา 24,500 บาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งการเปิดตัวของ ไอโฟน 3จี เป็นปัจจัยที่สร้างกระแสทัชสกรีนในกลุ่มผู้บริโภค ให้เป็นที่รับรู้ สามารถเข้าถึงและใช้งานง่าย ทำให้ตลาดนี้ขยายตัวขึ้น รวมทั้งยังมีเครื่องจากเอชทีซี ทั้งทัช ไดมอนด์, ทัช เอชดี และทัชโปร ที่มีผู้บริโภคสนใจซื้อเครื่องภายในงานอย่างคึกคัก ระดับราคาประมาณ 10,000 - 35,000 บาท ทำให้เงินสะพัดในงานสูงขึ้น

          ส่วน โซนี่ เกาะกระแสวันวาเลนไทน์ นำโทรศัพท์มือถือเดิมที่มียอดขายสูงมาปรับเปลี่ยนสไตล์ พิงค์ ซีรีส์ จำนวน 4 รุ่น คือ ดับบลิว595 ราคา 9,490 บาท, ดับบลิว380ไอ ราคา 5,690 บาท ทั้ง 2 รุ่นมีระบบจับการเคลื่อนไหว รุ่น ที700 ราคา 8,490 บาท และที303 ราคา 3,490 บาท ใช้งบการตลาด 20 ล้านบาท

          ฝั่งค่ายโทรศัพท์มือถือ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด  เปิดตัว เคเอฟ350 ไอซ์ ครีม ราคา 6,900 บาท มือถือแบบฝาพับ เน้นความสวย หวาน ต่อยอดจากรุ่น เคพี500 คุกกี้ มือถือทัชสกรีนโดยเน้นเจาะกลุ่มเฉพาะ เช่น รุ่นฝาพับ ที่ยังมีความต้องการอยู่ และเตรียมออกทัชสกรีนอีกในไตรมาส 2 

          ส่วน บมจ.สามารถ ไอ-โมบาย กล่าวว่า ไอ-โมบาย เปิดตัวมือถือใหม่ในงาน 4 รุ่น โดยรุ่นหลัก คือ ไอ-โมบาย ฮิตซ์ 103 มีไฟฉายในตัว ราคา 890 บาท ถือว่าราคาต่ำที่สุดในงานนี้ นอกจากนี้ ยังมีทีวีโมบาย 2 ซิม คือ ไอ-โมบาย ทีวี 535 ดูอัลซิม และทีวี 533 ดูอัลซิม ราคา 4,790 บาท, สไลด์โฟน 322 ดูอัลซิม ราคา 2,990 บาท ขณะเดียวกัน มีแผนเปิดตัวมือถืออีกไม่ต่ำกว่า 20 รุ่น ประมาณ 80% เน้นที่ทีวีโมบาย และ 50% มี 2 ซิม เพื่อให้กลายเป็นฟังก์ชันหลักของมือถือ และจะมุ่งทำตลาดผ่านโมเดิร์นเทรดมากขึ้น

          ภายในงานนี้ยังมีมือถือเฮ้าส์แบรนด์อีกหลายค่าย ให้ความสนใจร่วมออกบูธ ไม่ว่าจะเป็น ทีดับบลิวแซด, ไอโนโว, แม็กซ์เทค, มิโซ โดยราคาอยู่ระหว่าง 2,000 - 6,000 บาท พร้อมโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อกระตุ้นการซื้อ

Apple wins patent for iPhone touch-screen controls

  SAN FRANCISCO (AFP) - Apple has won a US patent for touch-screen controls and gained a potential legal weapon against iPhone competitors.

          US Patent 7,479,949 is awarded to "(Steve) Jobs et al" for a method of "detecting one or more finger contacts with the touch screen display" to command computing devices.

          A multi-page patent available online at the US Patent and Trade Office on Monday details iPhone or iPod Touch commands such as finger or thumb swiping, twisting, or spreading to flip pages, rotate views, or enlarge images.

          The patent was issued last week, a day before Apple on January 21 announced record-high quarterly profits.

          Word of the patent provides ominous context for a warning made by Apple chief operating officer Tim Cook during a conference call that followed release the California firm's earnings report.

          Cook said he believes iPhones are "years ahead of the competition" and that they are vigilantly watching to make certain rivals don't usurp Apple's intellectual property.

          "We think competition is good," Cook said. "We are ready to suit up and go against anyone. However, we will not stand for having our IP ripped off and will use whatever weapons at our disposal."

          While not mentioning a specific competitor, Cook made his comment in reply to a question related to a new Palm Pre touch-screen mobile telephone unveiled at the Consumer Electronics Show this month to stellar reviews

"ไพโอเนียร์"เปิดตัวนวัตกรรม

   ไพโอเนียได้ทำการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีต่างๆให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น เป็นอีกทางเลือกหนึ่งเพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าได้ผลิตภัณฑ์ประสิทธิภาพสูงคุ้มค่าเงินมากที่สุด โดยคงยึดคอนเซปต์ JoyRide เป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ Car AV New Series 2009 ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ซึ่งนิยมการเชื่อมต่อเครื่องเล่นแบบพกพาเช่น i-Pod,i-Phone และ USB ซึ่งต่อเข้ากับเครื่องเล่นของไพโอเนียร์ได้โดยตรง
          โดยไพโอเนียร์ ภูมิใจนำเสนอนวัตกรรมที่สร้างความแปลกใหม่จากเครื่องเล่นในท้องตลาด ด้วยการสั่งงานหน้าจอแบบ Touch Slide Operation เฉพาะรุ่น AVH-P4150DVD และ AVH-P3150DVD เครื่องเล่น DVD ขนาด 2 DIN ที่จะทำให้ผู้ใช้ได้ควบคุมทุกการใช้งานได้อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ซึ่งไพโอเนียร์ เชื่อว่า เครื่องเสียงรถยนต์รุ่นนี้จะสามารถช่วยกระตุ้นยอดขายโดยรวมของบริษัทในปีนี้ได้เป็นอย่างดี
          เครื่องเสียงติดรถยนต์ใหม่ล่าสุด 5 รุ่นของไพโอเนียร์ ได้แก่ เครื่องเสียงติดรถยนต์ไพโอเนียร์รุ่น AVH-P4150DVD เครื่องเล่น DVD 2-DIN ไฮไลท์เด่นประจำปี ควบคุมระบบสั่งงานบนหน้าจอแบบ Touch Slide Operation ครั้งแรกจากไพโอเนียร์ ใช้งานง่ายเพียงใช้ปลายนิ้วเลื่อนแถบหน้าจอเบาๆ สามารถ Forward/Rewind ไฟล์ภาพยนตร์หรือดนตรีหรือเลือกดู List ไฟล์จากแผ่นหรือเครื่องเล่นพกพาได้อย่างรวดเร็วหน้าจอ LCD fully Motorized QVGA ขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อและควบคุมการทำงานร่วมกับ iPod,iPhone และเครื่องเล่นพกพาอื่นๆได้โดยตรงทั้งภาพและเสียงผ่านช่องต่อ USB พร้อมรองรับอุปกรณ์ GPS ผ่านช่องต่อ RGB ปุ่มกดเรืองแสงเปลี่ยนสีสันได้มากถึง 112 เฉดสี สามารถปรับเปลี่ยนภาพพื้นหลัง wallpaper ได้หลากหลายตามความต้องการทุกอารมณ์
          เครื่องเสียงติดรถยนต์ไพโอเนียร์รุ่น AVH-P3150DVD เครื่องเล่น DVD 2-DINควบคุมระบบสั่งงานบนหน้าจอแบบ Touch Slide Operation ใช้งานง่ายเพียงใช้ปลายนิ้วเลื่อนแถบหน้าจอเบาๆ สามารถ Forward/Rewind ไฟล์ภาพยนตร์หรือดนตรีหรือเลือกดู List ไฟล์จากแผ่นหรือเครื่องเล่นพกพาได้อย่างรวดเร็ว หน้าจอ LCD แบบQVGA Wide TFT Active Matrix ขนาด 5.8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อและควบคุมการทำงานร่วมกับ iPod,iPhone และเครื่องเล่นพกพาอื่นๆ ได้โดยตรงทั้งภาพและเสียงผ่านช่องต่อ USB ปุ่มกดเรืองแสงเปลี่ยนสีสันได้มากถึง 112 เฉดสี สามารถปรับเปลี่ยนภาพพื้นหลัง wallpaper ได้หลากหลายตามความต้องการทุกอารมณ์
          เครื่องเสียงติดรถยนต์ไพโอเนียร์รุ่น AVH-P5150DVD เครื่องเล่น DVD ควบคุมระบบสั่งงานบนหน้าจอแบบ Touch Panel หน้าจอ LCD POP-UP fully MotorizedQVGA ขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อและควบคุมการทำงานร่วมกับ iPodและเครื่องเล่นพกพาอื่นๆได้โดยตรงทั้งภาพและเสียงผ่านช่องต่อ USB ปุ่มกดเรืองแสงเปลี่ยนสีสันได้มากถึง 112 เฉดสี และสามารถปรับเปลี่ยนโทนสีบนหน้าจอได้อย่างอิสระ
          เครื่องเสียงติดรถยนต์ไพโอเนียร์รุ่น DVH-P4150UB เครื่องเล่น DVD รองรับการเล่นไฟล์ DivX/MP3/WMA/AAC จากแผ่น DVD และ CD รองรับการเชื่อมต่อและควบคุมการทำงานร่วมกับ iPod,iPhone และเครื่องเล่นพกพาอื่นๆได้โดยตรงทั้งภาพและเสียงผ่านช่องต่อ USB ด้านหน้าเครื่อง พร้อมช่องต่อ AUX-in แบบมินิแจ๊ค เมนูระบบ OSDแสดงผลบนหน้าจอ ทำให้สามารถเล่นและควบคุมการทำงานของภาพและเสียงผ่าน iPodได้อย่างง่ายดาย
          เครื่องเสียงติดรถยนต์ไพโอเนียร์รุ่น DVH-3150UB เครื่องเล่น DVD รองรับการเล่นไฟล์ DivX/MP3/WMA/AAC จากแผ่น DVD และ CD รองรับการชมภาพนิ่ง jpegและการเล่นเพลง MP3 ผ่านช่องต่อ USB ด้านหน้าเครื่องพร้อมช่องต่อ AUX-in แบบมินิแจ๊ค

Thursday, January 22, 2009

แอปเปิลทำเงินเกินหมื่นล้านดอลล์ ในไตรมาส 4 เดือนธันวาคม

       แอปเปิล (Apple) ประกาศผลประกอบการไตรมาส 4 (ตุลาคม-ธันวาคม) ปี 2008 สูงกว่าคำพยากรณ์ของนักวิเคราะห์ กำไร 1.61 พันล้านเหรียญสหรัฐ อานิสงส์ยอดขายไอพ็อด (iPod) ที่แรงยังดีตลอดเวลา บนตัวเลขยอดรายรับรวมทะลุหลักหมื่นล้านเหรียญสหรัฐเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
       
       รายรับรวมตลอด 3 เดือนที่ผ่านมาแอปเปิลสามารถทำได้ถึง 1.02 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เฉลี่ยเป็นกำไร 1.78 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น เหนือกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ 1.29 เหรียญต่อหุ้น โดยกำไร 1.61 พันล้านเหรียญในไตรมาส 4 ปี 2008 นั้นสูงกว่า 1.58 พันล้านเหรียญที่เคยทำได้ในไตรมาสเดียวกันของปี 2007 ซึ่งคิดเฉลี่ยมีมูลค่า 1.76 เหรียญต่อหุ้น แอปเปิลระบุด้วยว่าสามารถจำหน่ายไอโฟนได้ 4.36 ล้านเครื่องในไตรมาสปลายปี สูงกว่าที่เคยทำได้ในปี 2007 ราว 88 เปอร์เซ็นต์ และสามารถจำหน่ายเครื่องเล่นเพลงดิจิตอลยอดฮิตอย่างไอพ็อด (iPod) ได้ 22.73 ล้านเครื่องตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา จำนวนเครื่องนี้คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3 เปอร์เซ็นต์
       
       จดหมายประชาสัมพันธ์ของแอปเปิลตีพิมพ์คำกล่าวของซีอีโอสตีฟ จ็อบส์ (Steve Jobs) ว่าแอปเปิลสามารถสร้างสถิติรายได้สูงเป็นประวัติการณ์แม้จะอยู่ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจโลก ซึ่งหมายถึงรายได้ของแอปเปิลในไตรมาสที่ผ่านมานั้นทะลุหลัก 1 หมื่นล้านเหรียญเป็นครั้งแรก โดยแอปเปิลสามารถจำหน่ายคอมพิวเตอร์แมคอินทอชได้ 2.52 ล้านเครื่อง ตลอดไตรมาส เป็นตัวเลขที่เติบโตกว่าไตรมาสในปีก่อนหน้าราว 9 เปอร์เซ็นต์

Tuesday, January 20, 2009

แอปเปิลเปิดเว็บขายสินค้าของ Apple มือสอง ทั้ง Mac และ iPod

        แอปเปิล ได้เปิดแถลงการณ์เปิดร้านออนไลน์สำหรับขายสินค้ามือสองแก่ผู้ใช้ชาวจีน โดยได้เริ่มโครงการนี้ตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งจะมีทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์แมคอินทอชและเครื่องเล่นเพลงดิจิตอลพกพา จูงใจชาวแผ่นดินใหญ่ด้วยส่วนลดจากราคาปกติราว 22 เปอร์เซ็นต์ เชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นตลาดแมคอินทอชในจีนได้อย่างคึกคัก 
       
       ตามข้อมูลในเว็บไซต์ของแอปเปิล แอปเปิลระบุว่าที่ผ่านมา บริษัทมีผลิตภัณฑ์จำนวนไม่น้อยที่จำหน่ายไปแล้วถูกส่งกลับคืนมา ซึ่งเมื่อแอปเปิลทำการปรับปรุงและทดสอบคุณภาพแล้วเสร็จก็ไม่ได้นำผลิตภัณฑ์นี้ไปทำประโยชน์ แอปเปิลจึงนำสินค้าใช้แล้วเหล่านี้มาจำหน่ายบนเว็บไซต์ภาษาจีนของบริษัทในราคาประหยัดกว่า
       
       สินค้ามือสองของแอปเปิลที่จะวางจำหน่ายบนเว็บไซต์มีตั้งแต่ไอพ็อดชัฟเฟิล (iPod shuffle) ราคา 308 หยวน หรือประมาณ 1,540 บาท จนถึงไอแมค (iMac) ราคาเริ่มต้นที่ 14,000 หยวน
       
       การขายสินค้าแอปเปิลมือสองเชื่อว่ากำลังมีทิศทางเติบโตขึ้นในสหรัฐฯ โดยยักษ์ใหญ่ค้าปลีกแดนลุงแซมอย่างเบสต์บาย (Best Buy) นั้นประกาศเริ่มขายไอโฟน (iPhone 3G) มือสองแล้วเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ตั้งราคาจำหน่ายถูกกว่าราคาปกติ 50 เหรียญ เพื่อเอาใจตลาดที่ชื่นชอบสินค้าราคาพิเศษ

       อย่างไรก็ตามไม่ใช่ครั้งแรกที่แอปเปิลเปิดฉากจำหน่ายสินค้ามือสองในราคาพิเศษ ก่อนหน้านี้ แอปเปิลมีโครงการจำหน่ายสินค้าพิเศษลักษณะนี้แล้วที่สหรัฐฯ อังกฤษ และญี่ปุ่นเมื่อหลายปีมาแล้ว แต่กลับไม่ได้รับความนิยมจากผู้ซื้อสินค้าออนไลน์เท่าที่ควร

แอปเปิ้ลเผยยอดดาวน์โหลดพุ่งถึง 100 ล้านครั้งทั่วโลก

 แอปเปิ้ลเผยว่าตั้งแต่ App Store บริการใหม่จากแอปเปิ้ลได้เปิดตัวครั้งแรกในวันที่ 11 กรกฎาคม 2551 ผู้ใช้ไอโฟนและไอพอด ทัชได้ดาวน์โหลดแอพลิเคชั่นกว่า 100 ล้านครั้งจาก App Store ซึ่งมีแอพพลิเคชั่นให้เลือกกว่า 3,000 ชนิด 90 เปอร์เซ็นต์ของแอพลิเคชั่นทั้งหมดเปิดให้ดาวน์โหลดในราคาที่ต่ำกว่า 10 เหรียญสหรัฐ ในขณะที่กว่า 600 แอพพลิเคชั่นเปิดให้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ด้วยคุณสมบัติพิเศษของไอโฟนและไอพอด ทัช อาทิ หน้าจอที่กว้าง อินเตอร์เฟซแบบมัลติทัช กราฟฟิก 3 มิติที่แสดงผลรวดเร็ว accelerometer ในตัว และเทคโนโลยีอีกมากมาย ทำให้แอพพลิเคชั่นต่างๆกลายเป็นแอพพลิเคชั่นสุดพิเศษที่ไม่สามารถหาได้จากมือถือหรือเครื่องเล่นเพลงดิจิตอลอื่นๆ

คาดว่าในปี พ.ศ.2552 ยอดจำหน่ายไอโฟนจะมีมูลค่า 1.7 ล้านล้านบาท

 ถึงปี พ.ศ. 2552 กระแสความนิยมไอโฟน (iPhone) กำลังเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2551 แอบเปิลได้เปิดตัวไอโฟนรุ่นล่าสุด ชื่อว่า “ไอโฟนทรีจี (iPhone3G)” โดยเพิ่มลูกเล่นให้สามารถใช้งานได้มากขึ้นและมีคุณสมบัติเด่นที่น่าสนใจหลายประการ อาทิ   รองรับระบบสามจี ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานจากสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ หรือ “ไอทียู (International Telecommunication Union)” ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบเทคโนโลยีระหว่างสองจีกับสามจีแล้วจะพบว่าสามจีมีช่องสัญญาณความถี่และความเร็วในการรับส่งข้อมูลมากกว่าสองจี ในแง่ของความสามารถในการเชื่อมต่อนั้นระบบสามจีสามารถเชื่อมต่อได้ตลอดเวลาที่เปิดเครื่องโทรศัพท์ และจะเสียค่าใช้บริการก็ต่อเมื่อเรียกใช้ข้อมูลผ่านระบบสามจีเท่านั้น   นอกจากนี้การใช้งานที่เด่นๆ ของไอโฟนมีหลายประการ อาทิ สามารถพูดคุยโทรศัพท์แบบเห็นหน้าเห็นตากับคู่สนทนาได้ซึ่งมีการเปิดตัวครั้งแรกในญี่ปุ่น และมีระบบค้นหาตำแหน่งที่ตั้งผ่านอินเทอร์เน็ต หรือ “จีพีอาเอส (GPRS = Global Positioning system)”  เป็นต้น 
          ในแง่ของราคานั้นก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ไอโฟนกลายเป็นที่นิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้สามารถ ดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคได้จำนวนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจแฮมเบอร์เกอร์ มีรายงานจาก “การ์ทเนอร์” คาดว่า ในปี พ.ศ. 2552 ยอดจำหน่ายของไอโฟนจะมีมูลค่า 50,000 ล้านเหรียญ หรือประมาณ1.7 ล้านล้านบาท ในขณะเดียวกันมีรายงานจาก “ไปเปอร์แจฟเฟรย์ (Piper Jaffray)”  คาดว่า ในไตรมาสแรกของปี พ.ศ. 2552 น่าจะสามารถจำหน่ายไอโฟนได้ 8.5 ล้านเครื่อง   ไตรมาสที่สองของปี พ.ศ. 2552 น่าจะจำหน่ายไอโฟนได้ 9.7 ล้านเครื่อง และไตรมาสที่สามของปี พ.ศ. 2552 น่าจะจำหน่ายไอโฟนได้11 ล้านเครื่อง 
          มีรายงานจาก “แอดม๊อบ (Admob)” ว่าเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2551 มีผู้สนใจเรียกดูโฆษณาผ่านระบบไวไฟบนไอโฟนทั่วโลกเติบโตขึ้นร้อยละ 52 คิดเป็นมูลค่า 359 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 12,500 ล้านบาท  สำหรับการเรียกดูโฆษณาผ่านไวไฟบนไอโฟนทั่วโลกคิดเป็นร้อยละ 6.3   และสำหรับในสหรัฐอเมริกานั้นการเรียกดูโฆษณาผ่านไวไฟบนไอโฟนคิดเป็นร้อยละ 9.9 นอกจากนี้ยังมีรายงานจาก “โมบายเมทริกส์รีพอท (Mobile Metrics Report) ว่าผู้ใช้ไอโฟนของแอปเปิลทั่วโลกสนใจที่จะใช้ระบบไวไฟร้อยละ 42 และในสหรัฐอเมริกาผู้ใช้ไอโฟนของแอปเปิลสนใจที่จะใช้ระบบไวไฟร้อยละ 19 ซึ่งจะเห็นได้ว่าความต้องการใช้ไวไฟกำลังเข้ามาแทนที่ความต้องการใช้งานเครือข่ายโทรศัพท์มือถือแบบเดิม ทั้งนี้ ไอโฟนได้รับความนิยมมากกว่าโทรศัพท์มือถือรุ่นอื่นๆ ที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบไวไฟได้เฉลี่ยอยู่ระหว่างร้อยละ 10 ถึงร้อยละ 20 
          นอกจากนี้เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2551 แอดม๊อบได้สำรวจแนวโน้มเกี่ยวกับระบบโทรศัพท์มือถือของ  แอปเปิล  คือ ไอพอดทัช พบว่า ไอพอดทัชเพิ่มขึ้น 3.4 เท่าจากเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2551 มีผู้สนใจใช้ไอพอดทัชซึ่งมีอยู่ 18 ล้านรายในเดือนกรกฎาคม 2551 เพิ่มขึ้นเป็น 292 ล้านรายในเดือนธันวาคม 2551  ข้อมูลที่ส่งผ่านไอพอดทัชทั่วโลกเพิ่มขึ้น 2.4 เท่าจาก 7 วันก่อนคริสต์มาสและ 7 วันหลังวันคริสต์มาส สำหรับอังกฤษและสหรัฐอเมริกานั้นมีผู้สนใจใช้ไอพอดทัชเพิ่มขึ้นคิดเป็น 2.7 และ3.2 เท่า 7 วันหลังวันคริสต์มาสตามลำดับในเดือนธันวาคม 2551 มีการเรียกดูโฆษณาบนไอพอดทัชในสหรัฐอเมริกาคิดเป็นร้อยละ 70  ส่วนประเทศอื่นๆ ที่เป็นอันดับต้นๆ คือ แคนนาดา อังกฤษ เม็กซิโก เยอรมนี และฝรั่งเศส 
          ถึงปี พ.ศ. 2552 ไอพอดทัชจัดอยู่อันดับที่ 2 ของเว็บแอดม๊อบและมีส่วนแบ่งทางการตลาดคิดเป็นร้อยละ 4.7    ส่วนการเรียกดูโฆษณาบนไอโฟนและไอพอดทัชคิดเป็นร้อยละ 15.5 จากการเรียกดูโฆษณาทั่วโลก เมื่อวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2552 มีรายงานข่าวจากไอทีนิวส์ว่า  แอบเปิ้ลและซิสโคซิสเต็มใช้งานนิทรรศการแมคเวิล์ดเอ็กซ์โป (Macworld Expo) ที่เมืองซานฟรานซิสโก  รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นสถานที่เปิดตัวเว็บเอ็กซ์มีทติ้งเซ็นเตอร์ (Cisco’s WebEx Meeting Center)  ที่สามารถใช้กับไอโฟนสามจีของแอปเปิลและไอพอดทัช ผู้ใช้ไอโฟนและไอพอดทัชสามารถร่วมประชุมกันได้โดยผ่านระบบสามจีหรือไวไฟโดยไม่เสียค่าบริการในการประชุมกันผู้ใช้ที่ประสงค์จะเข้าประชุมสามารถดาวน์โหลดโปรแกรมซิสโก้เว็บเอ็กซ์มีทติ้งเซ็นเตอร์จากเว็บของแอปเปิลได้อย่างไรก็ตามผู้ใช้ไม่สามารถใส่ข้อมูลการนำเสนองานของตนเองผ่านโปรแกรมนี้ได้แต่สามารถดูข้อมูลของผู้อื่นได้สำหรับไอพอดทัชนั้นผู้ใช้สามารถร่วมการประชุมผ่านการเชื่อมต่อไวไฟได้แต่จำเป็นต้องฟังเสียงจากเครื่องโทรศัพท์  
          จะเห็นได้ว่าวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมการใช้งานที่พัฒนาใหม่อยู่เสมอ ทำให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย ทำกิจกรรมต่างๆ ผ่านระบบมือถือได้สะดวกและ   รวดเร็วขึ้น ฉะนั้น ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือควรจะศึกษารายละเอียดข้อมูลโปรแกรมต่างๆ เกี่ยวกับมือถือให้เข้าใจ เพื่อให้สามารถใช้งานได้ตรงกับความต้องการและเต็มประสิทธิภาพของโทรศัพท์มือถือด้วย

โปรแกรมอ่านการ์ตูนด้วย iComic














วันนี้ผมจะแนะนำโปรแกรม iComic และวิธีการลงให้ครับ
ซึ่งโปรแกรม iComic นี้พัฒนาโดย Yoshitake Yamamoto
จะช่วยให้ผู้ใช้ iPod Touch หรือ iPhone สามารถอ่านหนังสือการ์ตูน
(ซึ่งมีแจกอยู่มากมายหลายที่ในเว็บไซต์ต่างๆ) 
ถ้าถามว่า ทำไมไม่ใช้โปรแกรม Photo ในการอ่านการ์ตูน
จริงๆ แล้วก็สามารถนำเอาโปรแกรม Photo ที่มีอยู่แล้วมาใช้ได้
แต่เนื่องจากเวลาขยายภาพแล้วมันจะแตก ดังนั้นจึงไม่สามารถอ่านการ์ตูนบางเรื่องได้
โปรแกรม iComic นี้จะช่วยให้อ่านการ์ตูนด้วยภาพที่สมบูรณ์

เริ่มต้นให้เราไปที่ iTune Store แล้วซื้อโปรแกรมนี้ (ราคา 0.99USD หรือประมาณ 35 บาทครับ)

หลังจากนั้นแล้วให้ไปโหลดหนังสือการ์ตูนจากเว็บไซต์ต่างๆ (โดยอาจ Search จาก Google คำว่า Manga Scans เป็นต้น) 
ตัวอย่างเว็บไซต์เช่น OneManga.com, Jailoy.com 
หลังจากนั้นแล้วให้ทำการ zip file หรือแปลงไฟล์ให้อยู่ในรูป cbr file 
แล้วโยนลงในเครื่อง iPod หรือ iPhone

สำหรับวิธีการโยนนั้นให้ลงโปรแกรมที่ชื่อ DiskAid (สามารถโหลดได้ฟรี) และทำการติดตั้งลงบนเครื่อง PC
(**โปรแกรม Diskaid เข้ามาที่นี่ได้เลยครับ http://www.digidna.net/diskaid/download.php)

ทำการ Connect ด้วยการ Sync และเปิด wifi เพื่อเชื่อมต่อ 
หลังจากนั้นจึงโยนไฟล์ zip ดังกล่าว  โ ดยวิธีการสร้าง Directory ชื่อ iComic ไปไว้ในภายใต้ Folder ชื่อ Photo (ซึ่งอยู่ใ น Media Folder อีกที) 

เท่านั้นก็สามารถเปิดอ่านการ์ตูนบนโปรแกรม iComic ได้แล้วครับ  :)

สำหรับวิธีการใช้งานนะครับเวลาดูการ์ตูน
1. เปิดโปรแกรม iComic บน iPod, iPhone
2. เปิดการ์ตูนตามชื่อไฟล์ zip ที่ได้ทำไว้
3. แตะหน้าจอหนึ่งครั้ง สำหรับเปิดหน้าถัดไป
4. แตะหน้าจอสองครั้ง สำหรับเปิดย้อนกลับไปหน้าเดิม
5. แตะสามครั้ง กลับไปที่หน้า List หนังสือการ์ตูน
6. สามารถเลือกปุ่มลูกศรด้านขวา สำหรับเลือกเป็นรายไฟล์ เพื่อเลือกหน้าที่ต้องการ
7. เมื่อทำการปิดแล้ว สามารถกลับมาอ่านหน้าที่เราอ่านถึงคราวที่แล้วด้วย Bookmark

Sunday, January 18, 2009

Apple ป่วน จ็อบส์ลาป่วย หุ้นฮวบ10%

 รอยเตอร์ส รายงานว่า สตีฟ จ็อบส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  (ซีอีโอ) ของ Apple Inc เตรียมขอพักงานยาวเป็นเวลาถึง 5 เดือน ไปจนถึงสิ้นเดือนมิ.ย.นี้ เพื่อรักษาอาการป่วยซึ่งตนเองระบุว่า เป็นปัญหาที่ซับซ้อนกว่าที่คิดไว้ ส่งผลให้นักลงทุนกังวลกับอนาคตของบริษัทยักษ์ใหญ่ไอทีรายนี้ และฉุดให้หุ้นของแอปเปิลดิ่งลง 10%
          การประกาศของจ็อบส์ วัย 53 ปี ซึ่งเคยเอาชนะโรคมะเร็งตับอ่อนมาได้เมื่อปี 2547 ได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับบรรดานักลงทุนและสาวกของ Apple โดยมองว่าจ็อบส์ ไม่ได้เป็นเพียงซีอีโอ แต่ยังเป็น  ไอคอนคนสำคัญผู้สรรค์สร้างเครื่องเล่นเพลงไอพอด โทรศัพท์ไอโฟน และคอมพิวเตอร์แมคอินทอช
          อีเมลของจ็อบส์ที่ส่งให้พนักงาน Apple  ระบุว่า ได้ขอให้ ทิม  คุก ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ  (ซีโอโอ) เป็นผู้รับผิดชอบงานแทน โดยตนจะหันมาดูแลสุขภาพ และ ให้ทุกคนในแอปเปิลมีเวลาทุ่มเทออกผลิตภัณฑ์สุดเจ๋งตัวใหม่แทน
          ก่อนหน้านี้จ็อบส์ได้ทำให้ทุก ฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์กันมาแล้ว เมื่อไม่ได้ไปปรากฏตัวที่งานแมคเวิลด์ สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยอ้างถึงปัญหาด้านสุขภาพ จากฮอร์โมนในร่างกายที่ไม่สมดุล ซึ่งทำให้น้ำหนักตัวลดลงอย่างฮวบฮาบ

งานเปิดตัวไอโฟน 3G by Truemove คึกคัก

 งานเปิดตัวไอโฟน 3G คนร่วมงานคับคั่ง "ทรูมูฟ" เชื่อตลาดไอโฟนยังไม่ตาย พร้อมเปิดแอปพลิเคชันรองรับการให้บริการ อนาคตวางแผนดันคอนเทนต์กลุ่มทรูลงไอโฟนช่วยขยายตลาด มองข้อพิพาทคลื่นความถี่ไม่ส่งปัญหา
          นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรู มูฟ จำกัด กล่าวว่า การเข้ามาของไอโฟน 3G (iPhone 3G) จะเป็นการขับเคลื่อนตลาดการใช้งานแลกเปลี่ยนข้อมูลดิจิตอล โดยลูกค้าของทรูจะมีสิทธิพิเศษในการใช้งานแอปพลิเคชัน รวมไปถึงคอนเทนต์ต่างๆที่ทางกลุ่มทรูมีอยู่ในอนาคต
          "ในต่างประเทศการวางจำหน่ายของไอโฟน 3G ทำให้ยอดการใช้บริการข้อมูลดิจิตอลเติบโตขึ้นมากกว่า 30 เท่า ซึ่งในจุดนี้เองที่ทางกลุ่มทรูจะได้เปรียบผู้ให้บริการรายอื่น ที่ไม่มีการให้บริการทางด้านเครือข่ายไร้สาย(ไวไฟ)ที่ครอบคลุม นอกจากนี้คอนเทนต์ต่างๆของกลุ่มทรู จะถูกนำมาให้บริการกับลูกค้าไอโฟนผ่านแอปพลิเคชันที่ทางทรูได้พัฒนาขึ้นมา"
          ในส่วนของยอดการจองไอโฟน 3G ของทรูมูฟในขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขที่แน่นอนได้ โดยจากการสัมภาษณ์ได้ข้อมูลว่าขณะนี้ยังมียอดจองไม่ถึง 30,000 เครื่อง ส่วนผู้ที่มาต่อแถวรับเครื่องในวันแรกจากการสังเกตของผู้สื่อข่าวพบว่าอยู่ประมาณ 1 - 2 พันคน ด้านข้อมูลสัญญาที่ทางทรูได้ตกลงกับแอปเปิลก็ไม่สามารถเปิดเผยได้เช่นกัน
          นายศุภชัย กล่าวถึงการทำตลาดของไอโฟน 3G ว่า การทำตลาดไอโฟน 3G จะตรงกับยุทธศาสตร์ คอนเวอเจนซ์ที่ทางกลุ่มทรูยึดถือมาตลอด ทำให้ไอโฟน 3G กลายเป็นอุปกรณ์ที่จะมาเติมเต็มชีวิตคอนเวอเจนซ์ผ่านบริการต่างๆอย่าง การใช้งานอินเทอร์เน็ตของทรู ที่มีอยู่ทั่วกรุงเทพฯ บริการ GPRS/EDEG ของทรูมูฟ รวมไปถึงบริการ 3G ที่จะเปิดให้ทดลองใช้บริการเร็วๆนี้
          "การให้บริการแอปพลิเคชันของทรูมูฟที่เปิดให้ดาวน์โหลดผ่านไอจูนส์ สโตร์ ประเทศไทย ได้รับการตอบรับค่อนข้างดี ทำให้ทางทรูจะพัฒนา มุ่งที่จะแอปพลิเคชันเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถใช้งานคอนเทนต์ต่างๆที่กลุ่มทรูมีอยู่ เช่น ข้อมูลกีฬาจาก TrueSport ข้อมูลมิวสิกวิดีโอจาก TrueMusic รวมไปถึงแอปพลิเคชันที่เข้ามาช่วยให้ลูกค้าของทรูสามารถตรวจสอบจุดให้บริการอินเทอร์เน็ตของทรู หรือสิทธิเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของทรู"
          นอกจากนี้ในอนาคตทางทรู จะมีการเปิดโครงการเพื่อให้นักพัฒนาแอปพลิเคชันในประเทศไทยได้เข้ามาร่วมพัฒนาด้วย โดยจะมีการร่วมกับทางแอปเปิลเพื่อให้ข้อมูลรวมไปถึงกำหนดมาตรฐานของแอปพลิเคชันร่วมกัน เพื่อให้แอปพลิเคชันที่ได้ออกมาเป็นไปตามมาตรฐานของแอปเปิล
          สำหรับเรื่องข้อพิพาทของคลื่นความถี่ 850MHz นายศุภชัย มองว่าปัญหาดังกล่าวจะไม่เป็นอุปสรรคต่อลูกค้าที่ซื้อเครื่องและต้องการใช้งานเทคโนโลยี 3G เพราะสัญญาที่มีกับ กสท จะอยู่ในขั้นทดลองใช้งาน ยังไม่ได้ทำเพื่อการค้า ซึ่งเมื่อถึงเวลาที่จะใช้งานจริงประมาณเดือนเมษายนน่าจะหาทางออกได้
          เอชทีซีเชื่อไม่กระทบ
          ด้านเอชทีซีมองกระแสไอโฟนช่วยกระตุ้นภาพรวมของตลาดโทรศัพท์ทัชสกรีน เชื่อไม่ส่งผลกระทบตลาดพีดีเอโฟนในระยะยาว ยอมรับปีนี้ตลาดสมาร์ทโฟนแข่งขันสูงรับกระแสระบบปฏิบัติการใหม่ทั้ง Android และ Palm Web OS
          นายณัฐวัชร์ วรนพกุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย เอช ที ซี (ไทยแลนด์) จำกัด ให้สัมภาษณ์ว่า การเข้ามาทำตลาดอย่างเป็นทางการของไอโฟน จะส่งผลกระทบในระยะสั้นเช่นเดียวกับเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาจากกระแสเครื่องหิ้วที่ส่งผลกระทบแค่ 3 เดือนแรกเท่านั้น
          "ทางเอชทีซี ไม่ได้ตั้งเป้ายอดขายในไตรมาสแรกของปีนี้ไว้สูง เนื่องจากมองว่าสภาพเศษรฐกิจในช่วงปลายปีที่ผ่านมาจะส่งผลกระทบมาถึงในไตรมาสแรกของปีนี้ ดังนั้นการเข้ามาทำตลาดของไอโฟนในประเทศไทยจึงแทบไม่ส่งผลกระทบต่อเอชทีซี"
          นอกจากนี้ยังให้ความเห็นถึงผลกระทบของตลาดเกรย์มาเก็ตว่ายังคงมีอยู่ต่อไป แม้ว่าทางทรูมูฟมีโปรโมชันขายเครื่องเปล่าไม่ติดสัญญาออกมา ซึ่งจากเหตุดังกล่าวจะส่งผลให้ราคาไอโฟนในตลาดเกรย์มาเก็ตลดลง เมื่อเป็นเช่นนั้นผู้บริโภคที่ต้องการซื้อเครื่องจะตัดสินใจลดเงิน หรือ เพิ่มเงินส่วนต่าง เพื่อให้ได้ประกันจากแอปเปิลจะอยู่ที่การตัดสินใจของผู้บริโภค
          ส่วนราคาและโปรโมชันขายไอโฟน 3G ขายเครื่องเปล่าเริ่มต้น 24,500 บาทไม่ติดสัญญา 2 ปี เริ่มต้นเดือนละ 1,199 บาท

ญี่ปุ่นตรวจสอบความปลอดภัย iPod

          ญี่ปุ่นเปิดสอบสวนความปลอดภัยของ iPod หลังพบกรณีแบตเตอรี่ติดไฟขณะกำลัง ชาร์จ Apple รายงานผลตรวจสอบกลับแต่ปิดปากเงียบ รายงานข่าวเผยเพียง ไม่มีใครได้รับการบาดเจ็บ แฉเหตุมาจากแบตเตอรี่ลิเทียมเจ้าปัญหาร้อนแล้วไฟลุก

          สำนักข่าวเอพีรายงานจากประเทศญี่ปุ่น ระบุว่า กระทรวงการค้าและเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ซึ่งมี หน้าที่ตรวจสอบ มาตรฐานและคุณภาพของสินค้า กำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบปัญหา ทางเทคนิค ที่เกิดขึ้นจากการ ประจุติดไฟของแบตเตอรี่ลิเทียม ที่ใช้งานในเครื่องไอพอดนาโน โมเดล MA099J/A

          รายงานข่าวระบุด้วยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่คานากาวา ซึ่งตั้งอยู่ทาง ตอนใต้ของกรุง โตเกียว ตั้งแต่ช่วงเดือน ม.ค. ขณะที่บริษัทแอปเปิ้ล คอมพิวเตอร์ได้รายงาน ถึงปัญหาดังกล่าว กลับมายังกระทรวงการค้าและเศรษฐกิจในช่วงต้นเดือน โดยระบุว่าไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จากอุบัติเหตุดังกล่าว อย่างไรก็ตาม แอปเปิ้ลญี่ปุ่นไม่ได้ปฏิเสธข่าว แต่ก็ไม่ยอมให้รายละเอียด เพิ่มเติมใดๆ

          ทั้งนี้ไอพอดนาโนได้วางจำหน่ายไปทั่วโลก แต่ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า iPod Nanoในรุ่น ดังกล่าวได้ถูกวางจำหน่ายในที่อื่นใดบ้าง นอกจากที่ญี่ปุ่น

          ก่อนหน้านี้กระทรวงได้สั่งให้ Apple ญี่ปุ่นตรวจสอบสาเหตุที่ก่อให้เกิดประกายไฟจากแบตเตอรี่ที่ กำลังชาร์จและรายงานกลับมาโดยด่วน

          จากข้อมูลที่ปรากฏ ตัวเครื่องไอพอดถูกผลิตขึ้นในประเทศจีน แต่ไม่มีรายงานว่าตัวแบตเตอรี่ ที่เกิดปัญหามีต้นตอการผลิตมาจากที่ใด อย่างไรก็ตาม มีรายงานเรื่องแบตเตอรี่ลิเทียม ที่ใช้ใน เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กหลายต่อหลายยี่ห้อ และหลายต่อหลายรุ่นทั่วโลก ร้อนจัดจนเกิด ประกายไฟลุกไหม้มาโดยตลอด

          รายงานข่าวจากกระทรวงยังระบุด้วยว่า iPod รุ่นที่เกิดปัญหาดังกล่าวถูกวางจำหน่าย ในญี่ปุ่นประมาณ 425,000 เครื่อง แต่ไม่มีรายละเอียดว่าเครื่องถูกจำหน่ายหรือยังวางขาย อยู่ตามห้างร้านเป็นจำนวนเท่าใด โดยแอปเปิ้ลวางจำหน่ายตั้งแต่เดือน ก.ย. 2005 และเลิกทำตลาดในช่วง 1 ปีให้หลั

          จนถึงขณะนี้ ไอพอดยังถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จแห่งทศวรรษของแอปเปิ้ล ที่สามารถ ยืนหยัดเป็นแบรนด์สินค้าที่ทันสมัย ยอดนิยมสม่ำเสมอ ทำให้ Apple ทำยอดขายจากสินค้า ดังกล่าวได้อย่างถล่มทลาย

          สิ้นสุด ณ สิ้นปีที่ผ่านมา iPod ทำยอดขายไปแล้ว 22.1 ล้านเครื่อง ต่ำกว่าที่เคยมีคนประมาณ การไว้ที่ 25 ล้านเครื่องเล็กน้อย

          ที่ผ่านมาปัญหาแบตเตอรี่เกิดขึ้นกับการใช้งานบ้างเหมือนกันแต่ไม่ใช่กับกรณีลุกไหม้ ส่วนใหญ่เกิดจากอายุการใช้งานที่สั้นหรือจุพลังงานได้ไม่นานเพียงพอ

รหัสลับ redsn0w มันคืออะไร



ทาง iPhone DevTeam (ทีมใต้ดินที่ทำการ crack iPhone) ได้ทำการทิ้งปริศนาไว้
ซึ่งทำให้ใครหลายๆคนได้ลุ้นนั่นคือ การ Jailbreak ของเครื่อง iPod Touch 2Gen นั่นเอง
เนื่องจากในตอนนี้เครื่องในตระกูลของ iPod เกือบทุกเครื่องได้ถูกทำการ hack เกือบหมดแล้วยกเว้นเครื่อง 2Gen นี้


Originally Posted by MuscleNerd 
The hex # in upper lefthand corner of http://redsn0w.com is an escrow hash. That particular hash is a very good one for iPod Touch 2G.

Originally Posted by MuscleNerd View Post
Probably a few days at most.


Thermonuclear pop! 
  • Well it isn’t a British Thermonuclear Device.
  • It isn’t an episode from “The Twilight Zone”
  • And it certainly isn’t iPhone 3G related (right now)  << เป็นการยืนยันว่ามันไม่ใช่เครื่อง iPhone แน่ๆ
  • There is one other device…
  • It fits in your pocket..  << อุปกรณ์ที่คุณเองสามารถใส่ลงในกระเป๋า
  • What can it be?

ภายใต้รหัสลับ redsn0w ก็คงต้องรอ
การถอดรหัสเพื่อนำไปสู่
การลงโปรแกรม hack ต่างๆ

Tuesday, January 13, 2009

ฉลองร้าน Apple Store สำหรับ New Year วันนี้วันเดียวเท่านั้น





เป็นกิจกรรมฉลองเพื่อต้อนรับปีใหม่ของ Apple Store ที่จะลดราคาสินค้าต่างๆภายในร้าน ซึ่งจะมีเพียงวันเดียว (คือวันพุธที่ 14 มกราคม) โดยราคาที่ลดลงนั้นจะมีดังนี้คือ 


iPod nano
8GB: 2,000 songs / 8 hours of video   5,838 บาท
16GB: 4,000 songs / 16 hours of video   7,838 บาท

iPod Classic
120G ราคา 9,188 บาท

iPod Touch 
8G ราคา 8,088 บาท
16G ราคา 10,688 บาท
32G ราคา 14,488 บาท

Macbook
รุ่น 2.0GHz
35,968 บาท

รุ่น 2.4GHz
45,118 บาท

รุ่น 2.1GHz
56,118 บาท

และสินค้าอื่นๆ อีกหลายรายการ

มาเปิดศึกระเบิิดเพรชกับเกม Bejeweled2



















เกมชื่อดังของค่าย Pop Cap นั่นคือ Bejeweled2 เกมที่จะให้คุณมาระเบิดเพรช ซึ่งรับรองเลยว่าคุณจะติดงอมแงม (จนไม่เป็นทำอะไร) ถือเป็นเกมที่ขายดีที่สุดในการจัดอันดับของ iTunes ราคาตอนนี้ถือว่าไม่แพงนัก (ประมาณ 100 บาท) คุณก็สามารถเป็นเจ้าของได้ ภารกิจคือการสลับเพรชที่มีลักษณะเหมือนกัน (สีและรูปร่าง) ถ้าตรงกันก็จะหายไป (และเราจะได้คะแนน) แต่ก็จะมีเพรชที่มีประกายวาว แตกต่างจากเพรชอื่น ถ้าสามารถเรียงติดกับมันได้ ก็จะเกิดระเบิดขึ้น (ก็จะช่วยเพิ่ม Score ให้เราอีกด้วย)

เปิดศึกดวลกำปั้นบน iPhone และ iPod Touch


























ถึงเวลาแล้วที่จะได้เปิดศึกดวลกำปั้นบน iPhone และ iPod Touch กับเกมมวย (สากล) ที่มีภาพสวย และน่าสนใจทีเดียว กับเกม "IRON FIST BOXING" ที่ออกแบบมาได้อย่างน่าเล่น และเล่นได้สนุก อีกทั้งยังควบคุมง่าย ต้องอาศัยชั้นเชิงการออกหมัด การหลบหลีก และท่วงท่าการชกเพื่อคว่ำคู่ต่อสู้ลงสู่พื้นสังเวียน มาพิสูจน์ฝีมือกัน โดยมีมุมกล้องให้หลายๆ จุด รวมถึงกราฟฟิคที่สวยงาม เตรียมน๊อคคู่ชกได้แล้ววันนี้ โดยราคาเกมนั้นอยู่ที่ประมาณ 100 บาท สามารถหา download ได้ที่ iTunes 



Monday, January 12, 2009

(Review) iPod Touch Gen2



iPod touch Gen2 สุดยอด Entertainment Portable ที่มาพร้อมกับหน้าจอที่กว้างมากถึง 3.5 นิ้ว  ทำให้คุณสามารถฟังเพลง ดูวีดีโอ ดูภาพถ่ายได้อย่างจุใจและเต็มตา กับหน้าจอที่กว้างสุดๆ  และ ความหนาของตัวเครื่องที่เพียวบางแค่ 8 มิลลิเมตร เท่านั้น และแน่นอนเสียงดนตรีที่กระหึ่มมาก
iPod touch ได้ถือว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ ของiPod ทั้งหมดที่มีมา ด้วยคุณสมบัติหน้าจอสัมผัส multi-touch ด้วยการฟังเพลง ดูภาพถ่ายและวีดีโอ เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัสของคุณเอง  และน่าตื่นตาตื่นใจกับโปรแกรมอัตโนมัติของการฟังเพลง เพียงแค่คุณเอียงหน้าจอของ iPod touch ขณะอยู่ในโหมดฟังเพลงอยู่นั้น ให้เป็นแนวนอน iPod touch ก็จะเข้าฟังก์ชั่น Cover Flow ให้โดยอัตโนมัติ ให้คุณใช้ปลายนิ้วพลิกเลือกปกอัลบัมของเพลงที่คุณต้องการฟังได้ทันที  นอกจากนั้น iPod touch เป็น iPod รุ่นเดียวเท่านั้น ที่มี Wi-Fi Antenna ทำให้คุณสามารถออนไลน์ ท่องอินเตอร์เน็ตแบบไร้สายได้อย่างง่ายดาย โดยรองรับการอ่านภาษาไทยอย่างสมบูรณ์แบบ
คุณจะสามารถใช้ browser อย่าง Safari , Google Search  หรือ  Yahoo!  และคุณยังสามารถบันทึกข้อมูลจากอินเตอร์เน็ทที่คุณต้องการจะเก็บได้อีกด้วย
iPod touch 8GB บันทึกเพลงได้ถึง  1,750 เพลง  / ภาพถ่าย 10,000 ภาพ  playback video ได้นานกว่า 10 ชั่วโมง  สีดำ หน้าจอ 3.5 นิ้ว multi-touch และ Wi-Fi (802.11b/g)  ราคา คือ 8,890 บาท
iPod touch 16GB บันทึกเพลงได้ถึง  3,500 เพลง  / ภาพถ่าย 20,000 ภาพ  playback video ได้นานกว่า 20 ชั่วโมง  สีดำ หน้าจอ 3.5 นิ้ว multi-touch และ Wi-Fi (802.11b/g)  ราคา คือ 11,490 บาท

สำหรับเครื่อง iPod Touch Gen2 ถือได้ว่าเป็นเครื่องที่มี CPU ที่เร็วที่สุดเมื่อเทียบกับเครื่องรุ่นต่างๆ ของ iPod หรือ iPhone ทำให้ท่านสามารถเล่นเกม ได้อย่างไม่มีกระตุก

มาเป็นนักบินกันเถอะกับ X-Plane Airliner


หากคุณเคยฝันที่จะเป็นนักบินเมื่อครั้งตอนเป็นเด็ก ในตอนนี้ฝันของคุณเป็นจริงแล้ว !!!!
เกม X-Plane Airlinerที่จะช่วยให้คุณได้ลองเป็นนักบินขับเครื่องบิน โดยได้ทำการจำลองการทำงานของเครื่องบินอย่างสมบูรณ์ โดยภารกิจคือการนำเครื่องบิน (ซึ่งมีอยู่หลายรุ่น) นำผู้โดยสารไปถึงที่หมาย

มาเป็น กีต้า ร็อค กันเถอะ

เป็นเกมส์ใหม่จากค่าย GameLoft ชื่อเกม Guitar Rock Tour  ที่จะให้ท่านเป็นนักกีต้าร์ โดยลักษณะการเล่นจะคล้ายกับเกม Tapulous' venerable Tap Tap Revenge และ Tap Tap Dance ให้กดปุ่มที่มีอยู่ทั้งสิ้น 4 ปุ่ม ให้ทันเวลาเมื่อตัว Tap ไหลลงมา ดนตรีมันๆ กับความตื่นเต้นในการจับ Key จะทำให้คุณมันส์จนวางไม่ลงเลยทีเดียว 







แอปเปิลเปิดเกมขายตรงตลาดไทย ด้วย"ออนไลน์สโตร์"จุดพลุแข่งขันเดือด

"Apple" เดินเกมบุกขายตรงตลาดเมืองไทย เปิด "แอปเปิลออนไลน์สโตร์" ส่งสินค้าตรงจากสิงคโปร์ ไม่ผ่านตัวแทนจำหน่ายในประเทศ ผ่านทาง http//store.apple.com/ th ซึ่งเป็นช่องทางขายใหม่ของAppleในเมืองไทยในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการดำเนินการโดยตรงจากApple ต่างประเทศโดยไม่ผ่านAppleประเทศไทย หรือตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยแต่อย่างใด พร้อมเปิดโอกาสให้นักเรียนนักศึกษาซื้อสินค้าราคาพิเศษ วงในเผยอาจสร้างการแข่งขันราคารุนแรงดุเดือดขึ้น "เดอะแวลลูฯ" หนึ่งในดิสทริบิวเตอร์เผยในเบื้องต้นอาจจะยังไม่เห็นว่ามีผลกระทบต่อผู้ค้าหรือตัวแทนจำหน่ายในเมืองไทยเนื่องจากพฤติกรรมการซื้อสินค้าของคนไทยก็ยังไม่นิยมซื้อสินค้าออนไลน์ เพราะยังต้องการสัมผัสทดลองใช้สินค้า รวมถึงการพูดคุยต่อรองกับคนขาย นอกจากนี้ยังต้องการบริการหลังการขาย แต่ในอนาคตก็คาดว่าจะต้องมีผลกระทบแน่นอน แต่จะมากแค่ไหนเท่านั้น


ทั้งนี้Appleออนไลน์สโตร์ถือเป็นอีกหนึ่งหน่วยธุรกิจของApple ในการดำเนินงานหรือเปิดให้บริการในประเทศต่างๆ เป็นคนละหน่วยธุรกิจของAppleประเทศไทย อย่างไรก็ตามAppleประเทศไทยได้ชี้แจงกับดีลเลอร์แล้ว ว่าการซื้อขายทางออนไลน์จะไม่ส่งผลกระทบเพราะเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของร้านค้าตัวแทนจำหน่ายต่างๆ ในรูปแบบของ iStudio และ iBeat นอกจากนี้Appleยังมีช่องทางการจำหน่ายอีกรูปแบบ คือเป็นAppleคอร์เนอร์ใน พาวเวอร์บาย โดยจะมีการวางจำหน่ายสินค้าบางโมเดล บางรุ่นเท่านั้น โดยทาง Appleประเทศไทยเป็นผู้ดีลกับศูนย์การค้านั้นโดยตรง เพื่อขยายช่องทางจำหน่ายให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น


มาเล่น Playstation บนเครื่องเล่น iPod Touch/ iPhone กันเถอะ

ภายหลังจากที่ iPhone/iPod Touch ได้มีโปรแกรม Emulator ของเครื่องเกมดังๆ ซึ่งได้แก่ Famicom, Gameboy Advance ออกมาให้เล่นกันแล้ว และล่าสุดก็มี Playstation Emulator ออกมาช่วยทำให้เครื่อง iPhone และ iPod touch สามารถเล่นเกม Playstation 1 ได้ อย่างไรก็ตามในขณะนี้อยู่ในช่วงของการพัฒนาปรับปรุง ดังนั้นมันจึงยังอาจไม่ค่อยสมบูรณ์นัก แต่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียวเพราะด้วย Spec ของ iPhone และ iPod touch นั้นสามารถเล่นเกมเหล่านี้ได้อย่างไม่มีปัญหา แต่ในเวอร์ชั่นปัจจุบันนี้อาจยังเล่นได้ไม่สมบูรณ์นัก เกมส่วนใหญ่ยังคงกระตุกอยู่มาก แต่การบังคับนั้นถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว

จอยเกมสำหรับ iPhone/iPod Touch กับ Game Grip

ไม่ควรพลาดกับเคสยี่ห้อ Marware ได้ออกแบบเคส Game Grip มาเอาใจคอเกมโดยเฉพาะ โดยหน้าตาตัวเคสเป็นรูปร่างที่มีด้านจับ 2 ข้างเหมือนกับจอยเกม (ที่ใหญ่มาก) โดยทำการใส่ซิลิโคนเคสก่อนหนึ่งชั้นจากนั้นก็นำเข้าไปวางที่ Game Grip อีกที ซึ่งทำจากพลาสติกแข็ง แต่ตรงด้ามจับสีน้ำเงินจะเป็นยางซิลิโคนที่ออกแบบมาให้จับได้ถนัดมือ
Game Grip มีให้เลือกซื้อแยกทั้งของ iPhone 3G และ iPod touch 2G ราคาเริ่มต้นที่ $40 (ประมาณ 1,400 บาท) หรือจะซื้อแพ็กคู่ที่ในชุดมีซิลิโคนของทั้ง 2 เครื่องมาให้เลยพร้อมกันก็มีราคาอยู่ที่ $45 (ประมาณ 1,570) คราวนี้หละมาวาดลวดลายโดยเฉพาะเกมแข่งรถได้อย่างมันมือทีเดียว

'แอปเปิล' เปิดทางขายเพลงไร้บล็อก

แอปเปิล อิงค์ บรรลุข้อตกลงกับบรรดาค่ายเพลงชั้นนำของโลก ที่จะขายไฟล์เพลงดิจิตอลในรูปแบบที่ไม่มีซอฟต์แวร์ป้องกันการก๊อบปี้ ซึ่งปิดโอกาสให้แฟนเพลงที่ซื้อเพลงจากไอทูนส์นำเพลงเหล่านั้นไปแบ่งปันคนอื่นๆหรือไรท์ลงแผ่นซีดี บริษัทผู้ผลิตสินค้าเทคโนโลยีชื่อดังอย่างเครื่องเล่นเพลงดิจิตอลไอพอดและโทรศัพท์เคลื่อนที่ไอโฟน เปิดเผยว่า นอกจากกลยุทธ์การตลาดรูปแบบใหม่ที่กล่าวมาข้างต้น บริษัทมีแผนที่จะขายเพลงแก่ผู้ใช้ไอโฟนผ่านการดาวน์โหลดทางเครือข่าย 3G นอกจากนี้เพื่อสู้กับปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก แอปเปิลยังได้ปรับราคาไฟล์เพลงใหม่ โดยเริ่มต้นตั้งแต่ 69 เซ็นต์ไปจนถึง 1.29 ดอลลาร์ โดยจะเริ่มเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ ฟิล ชิลเลอร์ รองประธานกรรมการอาวุโสฝ่ายการตลาดของแอปเปิล เป็นผู้ที่ออกมาประกาศข่าวดีแก่ผู้บริโภค ในงานแสดงสินค้าแมคเวิลด์ เอ็กซ์โป ที่ปีนี้จัดขึ้นที่เมืองซานฟรานซิสโก สหรัฐ ซอฟต์แวร์ป้องกันการก๊อบปี้ (Copy protection software) หรือที่รู้จักกันในชื่อการจัดการลิขสิทธิ์ดิจิตอล ก่อให้เกิดการถกเถียงกันอย่างมาก ทั้งในกลุ่มแฟนเพลงที่ซื้อไฟล์เพลงจากไอทูนส์และบรรดาค่ายเพลงทั้งหลาย เพราะซอฟต์แวร์นี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้แฟนเพลงที่ซื้อไฟล์เพลงอย่างถูกต้องตามกฎหมายผ่านการดาวน์โหลดนำไปแลกเปลี่ยนกับแฟนเพลงคนอื่นๆ หรือถ่ายโอนใส่เครื่องเล่นเพลงดิจิตอลรุ่นอื่นนอกเหนือจากไอพอด ก่อนหน้านี้ สตีฟ จ็อบส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทแอปเปิล เป็นคนแรกที่ออกมาเรียกร้องให้ค่ายเพลงยกเลิกการป้องกันในลักษณะนี้ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2007 ที่ผ่านมา แต่ถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยจากค่ายเพลง แม้ว่าไอทูนส์จะเป็นตลาดเพลงออนไลน์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกก็ตาม เพราะตั้งแต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2003 ร้านจำหน่ายเพลงออนไลน์ทำยอดขายเพลงได้สูงถึง 6,000 ล้านเพลงแล้ว

Sunday, January 11, 2009

ไอโฟนนำรอง 3G-Wi-Max เทคโนโลยีและการรักษาภาพลักษณ์ของยักษ์ใหญ่มือถือ

           ในปี 2552 นี้จะเป็นปีทองของผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคม เพราะมีไลเซนใหม่ๆ จ่อคิวออกอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น 3 G (third genera tion) บนคลื่นใหม่ 2.1GHz หรือ Wi-Max หรือกับการอัพเกรดโครงข่ายเดิมคลื่นความถี่เดิม (850 และ 900MHz) บนเทคโนโลยี HSPA (high speed packet access) เพื่อเนรมิตบริการโทรศัพท์มือถือยุคที่ 3 หรือ 3 G
          โดยมี "เอไอเอส" นำร่องไปก่อนแล้วกับเงินลงทุนอย่างน้อยๆ 150 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือห้าพันกว่าล้านบาท
          "ปีหน้า ไม่นับการลงทุน 3 จี บนคลื่น 2100 ถ้า กทช.เปิดประมูล เม็ดเงินที่เราจะใช้ในการลงทุนไม่น่าต่ำกว่าปีนี้ คือ ที่ 1.2-1.4 หมื่นล้านบาท" วิเชียร เมฆตระการ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กล่าว และว่า "ผมคิดว่าไลเซน 3 G คงออกมาปีหน้า เพราะ กทช.ไม่มีอะไรต้องรออีกแล้ว ถ้าออกมาได้จะดีมาก เท่ากับเป็นการกระตุ้นการลงทุนในภาวะที่เศรษฐกิจอย่างนี้"

          สำหรับ 3 G-2100 MHz "เอไอเอส" ประเมินว่า ช่วง 3 ปีแรกจะใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่าปีละ 2.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นเงินจำนวนไม่น้อย แต่สำหรับ "เอไอเอส" ที่มีดีกรีเป็นถึงเจ้าตลาด และมี ผู้ถือหุ้นใหญ่กระเป๋าหนักอย่าง "เทมาเส็กฯ" ย่อมไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง "ปีหน้าต้นทุนการเงินสูงขึ้นแน่ แต่ถ้าต้องลงทุน 3 จี เรื่องเงินสำหรับเราไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร แต่แน่นอนว่าสภาวะเศรษฐกิจเป็นอย่างนี้ การใช้จ่ายต้องระมัดระวังมากขึ้น เชื่อว่าคนอื่นๆ ก็คงไม่ต่างกัน"
          ในมุมของประชาชนผู้ใช้บริการคงต้องรออีกเป็นปีกว่าถึงจะมีโอกาสได้ใช้มือถือ  3 G บนคลื่นความถี่ 2100 MHz เพราะ "กทช." คาดว่าจะเริ่มจัดเวทีประชาพิจารณ์ร่างหลักเกณฑ์ใบอนุญาต 3 G ช่วงไตรมาสที่ 1 กว่าจะเปิดประมูล กว่าจะแจกไลเซน และกว่าจะติดตั้งโครงข่ายแล้วเสร็จใน  บางส่วนเพื่อเปิดให้บริการได้ เบ็ดเสร็จแล้วปีกว่านับจากนี้อาจเร็วไปด้วยซ้ำ อยากใช้จริงๆ ลอง 3 G บนคลื่น 850 และ 900 MHz ไปพลางๆ ก่อนก็ได้ โดยทั้งดีแทค และทรูมูฟ ตั้งใจว่าจะเผยโฉมไม่เกินในไตรมาสที่ 2 ปีหน้า

          โดย "ทรูมูฟ" แม้จะเป็นน้องนุชสุดท้องในตลาดมือถือก็จริง (เทียบมาร์เก็ตแชร์) แถมไม่ได้มีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นยักษ์ข้ามชาติเหมือน "เอไอเอส และดีแทค" แต่กลับเป็นรายแรกที่ตกลงปลงใจกับ "แอปเปิล" นำเข้าเครื่อง "ไอโฟน 3 G" ที่รองรับการใช้งานบนคลื่น 850MHz ทำสัญญา 3 ปี ปีละ 1 แสนเครื่อง !!! ทำเอาพี่ใหญ่ "เอไอเอส" และน้องรอง "ดีแทค" งงไปเลยกับความใจถึงของ     น้องเล็ก เรียกว่า มีเครื่อง "ไอโฟน 3 G" ให้ลูกค้าได้ทดลองใช้ก่อนที่เน็ตเวิร์กจะขึ้นเสียอีก

          ในระหว่างนี้ "ทรูมูฟ" จึงเปิดให้ลูกค้าลงทะเบียนจองสิทธิในการซื้อ "ไอโฟน" ไปพลางๆ ได้ยินว่า เดิมเครื่องลอตแรกจะเข้ามาอวดโฉมก่อนคริสต์มาสนี้ มาเจอเหตุ "สนามบินปิด" เลยต้องกลับไปตั้งหลักใหม่ จะเปิดตัวเป็นทางการปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าโปรดติดตาม แต่ที่แน่ๆ ถึง "ทรูมูฟ" จะเป็นรายแรกที่ประกาศความร่วมมือกับแอปเปิลก่อนใคร แต่วันทำตลาดจริงจะพร้อมกันหมด แค่ 2 เจ้า (ทรูมูฟ และเอไอเอส) หรือครบ 3 เจ้ารวม "ดีแทค" ด้วย ถึงนาทีนี้ยังต้องลุ้น ได้ยินว่าพี่ใหญ่กับน้องรองพยายามที่จะร่วมมือกันในดีลนี้ ว่ากันว่า ถ้าสำเร็จต่างฝ่ายต่างจะเจ็บตัวน้อยหน่อยกับดีลสุดเขี้ยวนี้

          ข้างยักษ์ "เอไอเอส" ด้วยศักดิ์ศรีของเจ้าตลาดที่ประกาศตัวมาตลอดว่า เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี ในแง่หน้าตา และศักดิ์ศรี จึงพลาดดีล "ไอโฟน" ไม่ได้ด้วยประการ ทั้งปวง ถึงไม่คุ้มค่าในเชิงธุรกิจก็เถอะ ไม่อยากได้ แต่ต้องได้ เพื่อรักษาอิมเมจ "ผู้นำ" จึงแลกมาด้วยราคาแสนแพง (แต่แพงน้อยกว่าทรูมูฟ) ตัวเลขที่รับมา 3 ปีเหมือนกัน แม้ไม่ถึง 3 แสนเครื่องก็จริง แต่ก็หย่อนไปไม่เท่าไร (2.75 แสนเครื่อง)ไม่รวมข้อตกลงที่ว่า ต้องใส่เม็ดเงินด้านการตลาดปีละไม่ต่ำกว่า 50 ล้านอีกต่างหาก

          "เอไอเอส" หนักกว่า "ทรูมูฟ และดีแทค" ตรงที่ ถึงวันนี้เครื่อง "ไอโฟน 3 G" ยังไม่มีที่รองรับการใช้บน 900MHz ด้วยซ้ำหมายความว่า ลูกค้า "เอไอเอส" จะใช้ไอโฟนได้อย่างมากก็บนเครือข่ายเอดจ์เท่านั้น ว่ากันว่า วันนี้แม้ยังไม่ได้ขายเป็นทางการ ก็มีลูกค้าเอไอเอสที่ใช้ "ไอโฟน" อยู่แล้ว ไม่ต่ำกว่า 7 หมื่นราย ข้างทรูมูฟ และดีแทค ก็เช่นเดียวกัน ถึงเวลาขายจริง ถ้าต้องการลูกค้ามากๆ ระดับปีละแสนเครื่องก็คงต้องอัดฉีดกิจกรรม กระตุ้นยอดขายกันอย่างหนัก สวนทางเศรษฐกิจขาลงเสียนี่กระไร

          "กลุ่มที่อยากใช้ไอโฟนก็มีใช้ไปหมดแล้ว น่าสนใจว่า ถ้าโอเปอเรเตอร์เอาเข้ามาขายเองจะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นสักเท่าไร ถ้าไม่มีบริการใหม่ๆ มาดึงดูดใจ ลำพังแค่ตัวเครื่องไม่น่าดึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ได้มากนัก เว้นแต่จะมีกลยุทธ์ด้านราคา ซึ่งก็ไม่คุ้มอีก เพราะต้นทุนเครื่องแพง ขายถูกก็ต้องซับซิไดซ์"  ผู้สันทัดกรณีในวงการมือถือให้ความเห็น

          ระหว่าง "3 จี (2.1GHz) ไวแมกซ์ และไอโฟน" "ไอโฟน" มาก่อนเพื่อน แต่จะได้ใช้งานเต็มประสิทธิภาพของเครื่องหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่า "ทรูมูฟ-ดีแทค" อัพเกรดเครือข่ายได้เร็วแค่ไหน ส่วน "3 จี-ไวแมกซ์" ขึ้นอยู่กับการทำงานของ "กทช." ที่แน่ๆ ปีหน้าถือเป็นปีทองของผู้ผลิตอุปกรณ์โดยแท้ แต่กับยักษ์มือถือคงรู้ซึ้งคำว่า "ทุกขลาภ" ก็คราวนี้เอง ฟาก "ผู้บริโภค" คงต้องถามก่อนว่า เงินน่ะมีไหม ถ้ามีก็ไม่ใช่ปัญหา

"ซีอีโอ"แอปเปิ้ลอิงค์รับ"ป่วย" โรค"ฮอร์โมน"-ยันทำหน้าที่ต่อ


         ได้มีรายงานข่าว นายสตีฟ จ๊อบส์ วัย 53 ปี ประธานบริหารแอปเปิ้ล อิงค์ เจ้าของผลิตภัณฑ์ยอดนิยมไอโฟน, ไอพ็อดและคอมพิวเตอร์แมคอินทอช และเป็นผู้ซึ่งถูกกระพือด้วยข่าวสุขภาพที่ย่ำแย่ ได้ประกาศด้วยการส่งจดหมายไปยังพนักงานในองค์กรว่า ขณะนี้กำลังเข้ารับการรักษาตัวด้วยโรคฮอร์โมนเสียสมดุล โดยระบุว่าสาเหตุที่ต้องประกาศให้ชัดเจนเพราะการที่ตนไม่ได้ไปร่วมงานแมคเวิลด์ เอ็กซ์โป ที่ซานฟรานซิสโก ที่ปกติจะไปร่วมทุกปี รวมทั้งน้ำหนักที่ลดลงทำให้เกิดข่าวลือไปต่างๆ นานา กระทั่งว่าเสียชีวิตแล้ว

          นายจ๊อบส์ชี้แจงว่า แพทย์ได้ค้นพบสาเหตุที่ทำให้ตนน้ำหนักลดลงว่าเป็นเพราะฮอร์โมนในร่างกายเสียสมดุล เป็นเหตุให้ร่างกายสูญเสียโปรตีน อย่างไรก็ตาม ตนจะยังคงดำรงตำแหน่งประธานบริหารต่อไป และหากวันใดไม่สามารถทำหน้าที่ได้อีกต่อไปก็พร้อมจะเดินไปบอกคณะกรรมการบริหารขณะที่คณะกรรมการบริหารของแอปเปิ้ลได้ออกแถลงการณ์ยกย่องนายจ๊อบส์ว่าเป็นคนที่เก่งมากและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลกคนหนึ่ง

'แอปเปิล' เปิดทางขายเพลงไร้ block

          
          แอปเปิล อิงค์ บรรลุข้อตกลงกับบรรดาค่ายเพลงชั้นนำของโลก ที่จะขายไฟล์เพลงดิจิตอลในรูปแบบที่ไม่มีซอฟต์แวร์ป้องกันการก๊อบปี้ ซึ่งปิดโอกาสให้แฟนเพลงที่ซื้อเพลงจากไอทูนส์นำเพลงเหล่านั้นไปแบ่งปันคนอื่นๆหรือไรท์ลงแผ่นซีดี
          บริษัทผู้ผลิตสินค้าเทคโนโลยีชื่อดังอย่างเครื่องเล่นเพลงดิจิตอลไอพอดและโทรศัพท์เคลื่อนที่ไอโฟน เปิดเผยว่า นอกจากกลยุทธ์การตลาดรูปแบบใหม่ที่กล่าวมาข้างต้น บริษัทมีแผนที่จะขายเพลงแก่ผู้ใช้ไอโฟนผ่านการดาวน์โหลดทางเครือข่าย 3G นอกจากนี้เพื่อสู้กับปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก แอปเปิลยังได้ปรับราคาไฟล์เพลงใหม่ โดยเริ่มต้นตั้งแต่ 69 เซ็นต์ไปจนถึง 1.29 ดอลลาร์ โดยจะเริ่มเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้
          ฟิล ชิลเลอร์ รองประธานกรรมการอาวุโสฝ่ายการตลาดของแอปเปิล เป็นผู้ที่ออกมาประกาศข่าวดีแก่ผู้บริโภค ในงานแสดงสินค้าแมคเวิลด์ เอ็กซ์โป ที่ปีนี้จัดขึ้นที่เมืองซานฟรานซิสโก สหรัฐ
          ซอฟต์แวร์ป้องกันการก๊อบปี้ (Copy protection software) หรือที่รู้จักกันในชื่อการจัดการลิขสิทธิ์ดิจิตอล ก่อให้เกิดการถกเถียงกันอย่างมาก ทั้งในกลุ่มแฟนเพลงที่ซื้อไฟล์เพลงจากไอทูนส์และบรรดาค่ายเพลงทั้งหลาย เพราะซอฟต์แวร์นี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้แฟนเพลงที่ซื้อไฟล์เพลงอย่างถูกต้องตามกฎหมายผ่านการดาวน์โหลดนำไปแลกเปลี่ยนกับแฟนเพลงคนอื่นๆ หรือถ่ายโอนใส่เครื่องเล่นเพลงดิจิตอลรุ่นอื่นนอกเหนือจากไอพอด
          ก่อนหน้านี้ สตีฟ จ็อบส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทแอปเปิล เป็นคนแรกที่ออกมาเรียกร้องให้ค่ายเพลงยกเลิกการป้องกันในลักษณะนี้ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2007 ที่ผ่านมา แต่ถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยจากค่ายเพลง แม้ว่าไอทูนส์จะเป็นตลาดเพลงออนไลน์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกก็ตาม เพราะตั้งแต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2003 ร้านจำหน่ายเพลงออนไลน์ทำยอดขายเพลงได้สูงถึง 6,000 ล้านเพลงแล้ว-

Apple ตัดสัมพันธ์กับ Macworld

          Apple ออกแถลงการณ์ว่า ทางบริษัทจะเข้าร่วมงาน Macworld ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนมกราคมปีหน้าเป็นปีสุดท้ายและคนที่จะขึ้นเวทีครั้งนี้จะไม่ใช่สตีฟ จ็อบส์ ซีอีโอของบริษัทที่ขึ้นแสดงสุนทรพจน์เป็นประจำทุกครั้ง แต่จะเป็นฟิล ชิลเลอร์ (Phil Schiller )  รองประธานอาวุโสด้านการตลาดของแอ็ปเปิล 
          เรื่องนี้สตีฟ ดาวลิ่ง ( Steve Dowling ) ตัวแทนของแอ็ปเปิ้ลปฏิเสธที่จะให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับสุขภาพของจ็อบส์ ซึ่งได้กลายเป็นหัวข้อสำคัญในการพูดคุยกันตลอด 1 ปีที่ผ่านมา การขาดจ็อบส์ ขึ้นเวทีซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำโดยบริษัทโฆษณาอย่าง IDG  ถือว่าขาดบุคคลสำคัญไปเนื่องจาก สตีฟ จ็อบส์ ได้กลายเป็นตำนานของเวทีนี้ไปแล้วเพราะทุกครั้งที่ไปปรากฏตัว สตีฟ จ็อบส์จะสามารถดึงคนดู คนฟังให้ใจจดจ่อกับการนำเสนอโปรดักส์ตัวใหม่ที่สำคัญที่สุดของแอ็ปเปิลรวมถึงยุทธศาสตร์ของบริษัท  ดังนั้นการประกาศไม่เข้าร่วมงานในครั้งต่อไปจึงทำให้คนที่ติดตามผลงานของเขามาตลอดอดคิดไม่ได้ว่าสุขภาพร่างกายของจ็อบส์คงมีปัญหาอย่างที่ปรากฏเป็นข่าวลือหนาหูมาตลอด 
          ดาวลิ่ง ตัวแทนของแอ็ปเปิล กล่าวว่าฟิลจะเป็นคนขึ้นกล่าวแทนจ็อบส์ โดยจะเป็นการขึ้นพูดครั้งสุดท้ายของบริษัท ด้วยเหตุผลหนึ่งก็คือเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลสำหรับบริษัทที่จะต้องลงทุนมหาศาลในงานเทรด โชว์ ที่บริษัทจะไม่เข้าร่วมอีกต่อไปแล้ว นักวิเคราะห์มองว่าที่แอ็ปเปิลกล้าประกาศเช่นนี้ ก็เพราะเห็นว่าไม่จำเป็นจะต้องพึ่งงานอย่าง Macworld เพื่อเป็นเวทีในการโปรโมตโปรดักส์อีกต่อไปแล้ว เพราะขณะนี้บริษัทมีร้านค้าปลีกอยู่ทั่วโลกถึง 250 แห่ง สามารถเรียกลูกค้าได้สัปดาห์ละหลายล้านคนและยังมีเว็บไซต์ที่ติดอันดับท็อปเท็นในแง่ของคนที่เข้าไปชมหรือใช้อินเทอร์เน็ตด้วย 
          ลึกๆแล้วความสัมพันธ์ระหว่างแอ็ปเปิ้ลกับ IDG ซึ่งเป็นผู้จัดงานเริ่มมีปัญหามาพอสมควรแล้วตั้งแต่การเข้าร่วมงานที่ซานฟรานซิสโก ความขัดแย้งระหว่างทั้งสองบริษัทหนักข้อขึ้นเมื่อทาง IDG ตัดสินใจย้ายการจัดงาน Macworld  จากนิวยอร์กไปยังบอสตันใกล้กับสำนักงานใหญ่ของ IDG ที่ฟรามิงแฮม รัฐแมสซาชูเซตส์  ทำให้แอ็ปเปิลถอนตัว ขณะที่การจัดงาน East Coast Macworld ในปี 2005 ก็ต้องยกเลิกไปเนื่องจากขาดดาราหลักที่จะเป็นตัวชูโรงเรียกความสนใจของผู้เข้าชมงาน   
          IDG ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆเกี่ยวกับแถลงการณ์ของแอ็ปเปิลที่จะเข้าร่วมงานในมกราคมปีหน้าเป็นครั้งสุดท้าย  แต่การตัดสินใจของจ็อบส์ก็ไม่ได้หมายความว่าวันของเขาในฐานะโฆษกคนสำคัญของแอ็ปเปิลจะสิ้นสุดลง เพราะปรากฏชัดเจนว่าแอ็ปเปิลกำลังวางแผนที่จะจัดอีเวนท์ของตัวเองขึ้นมาเช่น การจัดงาน Worldwide Developers Conference ประจำปีขึ้นในเดือนมิถุนายนและงาน iPod Music ในเดือนกันยายน  แต่เมื่อเทียบผลสัมฤทธิแล้วก็ต้องยอมรับว่ายังไม่ฮือฮาเท่ากับการเข้าร่วม Macworld ซึ่งเกิดปรากฏการณ์แฟนพันธุ์แท้ของแอ็ปเปิลที่ยอมเข้าคิวเพื่อรอซื้อบัตรเพื่อขอชมโปรดักส์ใหม่ๆของแอ็ปเปิลเป็นขวัญตา   ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าแอ็ปเปิลมีแผนจะเปิดตัวอีเวนท์ที่มีแนวทางจัดงานคล้ายๆกับ Macworld หรือไม่ ท่ามกลางความสนใจในการจับจ้องมองดูของคนในอุตสาหกรรมนี้ 
          แต่กำหนดการที่ออกมาชัดเจนแล้วก็คือการขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ของฟิล ชิลเลอร์ตัวแทนของสตีฟ จ็อบส์ จะมีขึ้นในวันอังคารที่ 6 มกราคม 2552 ในเวลา 09.00 น. ในส่วนของ IDG แม้จะยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้โดยตรงแต่ก็ได้มีการส่งข่าวไปยังสื่อมวลชนว่าทางบริษัทยังคงจะจัดงาน MacWorld 2010  ต่อไปไม่ว่าแอ็ปเปิ้ลจะเข้าร่วมงานหรือไม่ก็ตาม 
          ข่าวการยกเลิกการเข้าร่วมงาน MacWorld ถือเป็นข่าวที่ช็อกวงการไม่น้อยและดูเหมือนจะถูกตีความว่าแอ็ปเปิลได้ตัดสินใจแล้วว่าไม่จำเป็นจะต้องเข้าร่วมปรากฏตัวในงาน Macworld ที่เคยเป็นเวทีในการกำหนดนิยามของแอ็ปเปิลตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา และดูเหมือนแอ็ปเปิลกำลังเตรียมการสำหรับอนาคตเมื่อซีอีโออย่างสตีฟ จ็อบส์ ที่เป็นไอคอนและเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทจะไม่ใช่คนที่ครองเวทีในงาน Macworld เหมือนที่เคยทำอีกต่อไป แต่บริษัทกำลังเปลี่ยนยุทธศาสตร์ใหม่ด้วยการเข้าถึงลูกค้าโดยตรง 
          แอ็ปเปิลดำเนินแนวทางการตลาดโดยอาศัยรูปแบบหลัก 2 รูปแบบ คือรูปแบบแรกเน้นความสามารถที่เหนือกว่าคู่แข่งด้วยบริการดนตรีและเพลงแบบ cool music  เพื่อชี้ให้เห็นว่าเป็นโปรดักส์ที่ทำอะไรได้มากกว่าคนอื่นๆ เช่นการโฆษณาระหว่าง Mac กับ PC  และ dancing iPod listeners   รูปแบบที่ 2 เรียกกันว่า Stevenote นั่นคือการที่สตีฟ จ็อบส์ ได้แสดงความเป็นอัจฉริยะหรือปรมาจารย์ในการพรีเซนต์โปรดักส์ใหม่ๆและผลักดันยุทธศาสตร์ให้ปรากฏต่อสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นในงาน Macworld หรือการแถลงข่าวกับสื่อมวลชน 
          งาน Macworld จึงถือเป็นเวทีของสตีฟ จ็อบส์อย่างแท้จริงเพราะสามารถเรียกความสนใจจากสื่อมวลชนสายเทคโนโลยีและถูกกล่าวถึงในข่าวภาคค่ำของโทรทัศน์เกือบทุกสถานีของสหรัฐ เหนือกว่างาน  Worldwide Developers Conference หรืองาน iPod event  ซึ่งแอ็ปเปิลเป็นคนจัดเองเสียอีก  Macworld ทำให้แอ็ปเปิลสามารถเป็นข่าวใหญ่ในเดือนมกราคม 2007 เมื่อทางบริษัทยืนยันข่าวลือที่ดำเนินมายาวนานว่าบริษัทจะก้าวเข้าสู่ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วย iPhone 
          แต่งานอย่าง Macworld Expo สำหรับแอ็ปเปิ้ลก็ใช่ว่าจะดีไปเสียหมด เพราะบริษัทอย่างแอ็ปเปิ้ลไม่ใช่บริษัทที่ให้เวลามากนักกับเรื่องอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือโทรศัพท์เคลื่อนที่  แอ็ปเปิ้ลมักจะไม่ค่อยโดดเด่นหรือไม่ปรากฏตัวในเวทีหารือรวมถึงการปรากฏเป็นข่าวในสื่อเมื่อเทียบกับความพยายามของบริษัทอื่นๆ ท่ามกลางความเป็นจริงที่ว่าธรรมชาติของตลาดเทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนไปจากเทคโนโลยีที่สงวนไว้สำหรับคนบางกลุ่ม หรือบางอาชีพได้กลายไปเป็นสิ่งที่แทบทุกคนกำลังใช้ในชีวิตประจำวัน 
          พูดง่ายๆก็คือแฟนพันธุ์แท้ของแอ็ปเปิลโดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่ไม่จำเป็นจะต้องไปเดินแถวย่าน Moscone Center ของซานฟรานซิสโกในเดือนมกราคมเพื่อเบียดเสียดกับคนอื่นๆ  แต่วันนี้ทำแค่รอคอยโปรดักส์ที่จะออกมาทางออนไลน์หรืออยู่ใกล้กับร้านของแอ็ปเปิล หรือติดตามข่าวสารจากบล็อคต่างๆก็ได้ข้อมูลแล้ว และเมื่อแอ็ปเปิลไม่เข้าร่วมงาน  Macworld แอ็ปเปิลก็จำเป็นต้องจัดอีเวนท์ให้บ่อยขึ้นเช่นงาน iPhone SDK  ซึ่งจะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า เพื่อเป็นเวทีในการส่งสาส์นของแอ็ปเปิล 
          วิธีการสื่อสารกับลูกค้านับต่อจากนี้ แอ็ปเปิลคงจะใช้วิธีการโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์และอินเทอร์เน็ตถี่ขึ้นรวมถึงกลยุทธ์แบบพูดกันปากต่อปากซึ่ง เป็นสิ่งที่แอ็ปเปิลแทบจะไม่ต้องทำเองเลยเพราะปรากฏอยู่มากมายใน Mac blogger และข่าวอื่นๆอยู่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นแอ็ปเปิลก็จะละเลยการจัดอีเวนท์ต่อสาธารณชนไม่ได้ ไม่เช่นนั้นก็อาจจะพลาดท่าเสียทีให้กับงานใหญ่ของออราเคิลอย่าง OracleWorldLovefest ซึ่งจัดเป็นประจำที่ซานฟรานซิสโกทุกฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งสามารถเรียกลูกค้าแฟนพันธุ์แท้ของ Mac ให้ไปปรากฏตัวได้   อีกปัญหาท้าทายหนึ่งก็คือแอ็ปเปิลจะสามารถสร้างอีเวนท์ในร้านค้าปลีกในนิวยอร์คและซานฟรานซิสโกได้บ่อยครั้งแค่ไหนหากคิดที่จะควบคุมบางเรื่องหรือบางโปรดักส์เอาไว้เพราะไม่อยากปล่อยออกไปจนหมด 
          นักวิเคราะห์มองว่านี่ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญในลำดับต้นๆของแอ็ปเปิลที่มีนโยบายควบคุมการปล่อยข่าวออกสู่สาธารณะ แต่ปล่อยให้เป็นงานของสตีฟ จ็อบส์ที่มักใช้เวลาพูดในงาน Macworld นานถึง 1 ชั่วโมงครึ่งเพราะเชื่อมั่นว่าจะมีคนรอคอยฟัง แต่ต้องไม่ลืมว่าขณะนี้เทคโนโลยีก้าวไกลถึงขั้นทำให้คนเรือนล้านสามารถรับรู้ข่าวสารและข่าวลือผ่านทางอินเทอร์เน็ตและบล็อกได้มากมาย 
          นักวิเคราะห์มองว่าเพื่อรักษาสถานะหรือตำแหน่งของบริษัทที่ได้ชื่อว่าสร้างความฮือฮาได้มากที่สุดบริษัทหนึ่งในอุตสาหกรรมนี้ แอ็ปเปิลจำเป็นต้องแสวงหาบางอย่างเพื่อถอดแบบหรือจำลองประสบการณ์โดยไม่ต้องเข้าร่วมงาน Macworld ซึ่งแน่นอนว่าคนหนึ่งที่ไม่สามารถหายไปไหนก็คือสตีฟ จ็อบส์ที่ผูกพันอนาคตกับแอ็ปเปิลนั่นเอง 
          การยุติความสัมพันธ์กับ Macworld ของแอ็ปเปิลจะเป็นการเปิดทางให้บริษัทสามารถแนะนำโฉมหน้าใหม่หรือวิธีการใหม่ๆในการรวมการพรีเซนต์ทางการตลาดที่สำคัญที่สุดเข้าไว้ด้วยกัน  รูปธรรมอย่างหนึ่งก็คือแอ็ปเปิลกำลังจะสร้างคนอื่นขึ้นมาแทนที่สตีฟ จ็อบส์ เพื่อขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์ แต่ในเรื่องที่สำคัญที่สุดก็ยังคงสงวนไว้ให้กับสตีฟ จ็อบส์ คนเดียวเท่านั้น 
          เป็นที่ยอมรับกันว่าคงมีผู้บริหารของแอ็ปเปิลเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่อาจจะสามารถถอดแบบบทบาทของสตีฟ จ็อบส์ได้ แต่ถ้าหากแอ็ปเปิลใช้โอกาสนี้ในการพัฒนาการจัดอีเวนท์ของตนเองขึ้นมาพร้อมกับการเปิดกว้างให้ผู้บริหารพนักงานของบริษัทมีโอกาสได้ปรึกษาหารือหรือถกเถียงอภิปรายเกี่ยวกับการสร้างความเจริญเติบโตให้กับบริษัท ก็แน่นอนว่าจะสามารถลดการพึ่งพาหรือต้องอาศัยใบบุญของสตีฟ จ็อบส์ ในการกำหนดท่าทีหรือกลยุทธ์ของบริษัทต่อสาธารณชนลงได้ แต่ถึงอย่างไรสตีฟ จ็อบส์ ก็จะยังเป็นตำนานอมตะของแอ็ปเปิล

"แอปเปิล"ปูพรมขยายช่องทางขาย ผนึก"เพาเวอร์บาย"ขนทัพสินค้ารุกทำตลาดเต็มสูบ


           "แอปเปิล" ขยายช่องทางขาย รุกจับมือยักษ์ค้าปลีก "เพาเวอร์บาย" เปิด "แอปเปิลช็อป" ประเดิม 2 สาขา ลาดพร้าว-บางนา ตั้งเป้าปีหน้าขยายเพิ่มอีก 14 สาขา เผยไตรมาสที่ 4 กำลังซื้อชะลอ ราคาคอมพิวเตอร์ตกฉุดยอดขายไม่เข้าเป้า วางแผนบุกตลาด "แอ็กเซสซอรี่" ช่วยเสริมรายได้

          นายภวัต ตั้งควิวิช ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารสินค้าคอมพิวเตอร์และโอเอ บริษัท เพาเวอร์บาย จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อช่วงปลายเดือน พ.ย.ที่    ผ่านมา เพาเวอร์บายได้ร่วมมือกับบริษัท      แอปเปิล ประเทศไทย เปิด "Apple shop @POWER BUY" 2 สาขา คือ เพาเวอร์บาย ลาดพร้าว และบางนา พื้นที่ประมาณ 50 ตร.ม./สาขา หลังจากที่เมื่อต้นปีได้ทดลองเปิดโมเดลดังกล่าวที่เพาเวอร์บาย สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยในร้านจะมีสินค้าแบรนด์แอปเปิล เช่น iMac, MacBook MacBook Air และ iPod เจาะกลุ่มครอบครัวและกลุ่มวัยทำงาน

          กลุ่มลูกค้าเพาเวอร์บายส่วนใหญ่เป็น กลุ่มลูกค้าระดับบีขึ้นไป ซึ่งตรงกับกลุ่ม  เป้าหมายของแอปเปิล ขณะเดียวกันทาง    แอปเปิลต้องการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายนอกจากที่ผ่านทางร้าน iStudio และ iBeat โดยแอปเปิลจะให้ความช่วยเหลือด้านการวางภาพลักษณ์ของสินค้า การเทรนนิ่งพนักงาน เป็นต้น

          นายภวัตกล่าวว่า ในปีหน้าบริษัทมีแผนเปิด "Apple shop @POWER BUY" อีก 14 สาขา จากเพาเวอร์บายทั้งหมด 80 สาขา โดยดูที่ทำเลและกลุ่มเป้าหมายเป็นหลัก

          "แอปเปิลช็อปต่างจาก iStuido คือ จะมีโปรโมชั่นที่หลากหลายกว่า รวมทั้งอาจมีโปรโมชั่นร่วมกับสินค้าอื่นๆ ที่จำหน่ายในเพาเวอร์บาย และได้รับสิทธิ์สะสมคะแนนบัตรเดอะวันการ์ด เป็นต้น"

          แม้ว่าเศรษฐกิจจะมีปัญหา แต่คาดว่าจะไม่กระทบต่อกำลังซื้อสินค้าแอปเปิล เพราะแอปเปิลมีกลุ่มลูกค้าที่เหนียวแน่นอยู่แล้วและเป็นลูกค้าระดับกลางถึงบน อาจจะมีการชะลอตัวแต่เชื่อว่ายอดขายไม่ตก โดยเพาเวอร์บายต้องการสร้างยอดขายให้หลากหลาย ทั้งจากโน้ตบุ๊ก เดสก์ทอป มากกว่า ไอพอดอย่างเดียว

          นายภวัตกล่าวอีกว่า สำหรับยอดขายสินค้ากลุ่มคอมพิวเตอร์และโอเอของ    เพาเวอร์บาย คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% ของรายได้ทั้งหมด โดยไตรมาสที่ 4 ที่ผ่านมาพบว่าคอนซูเมอร์มีการชะลอการซื้ออย่างชัดเจน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจและหลังจากงานคอมมาร์ตทำให้ดีมานด์ในตลาดลดลง รวมถึงราคาของสินค้าไอทีที่ลดลง โดยเฉพาะโน้ตบุ๊ก แม้ว่าการขายสินค้าไอทีจะเพิ่มขึ้น 20% แต่มูลค่าลดลง 10% ทำให้ปีนี้ยอดขายในส่วนที่ดูแลต่ำกว่าเป้าเล็กน้อย

          สำหรับปี 2552 คาดว่าคอนซูเมอร์จะเน้นราคาเป็นหลัก ดังนั้นในส่วนของสินค้าไอทีจะต้องขายจำนวนมากขึ้นและสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า โดยเฉพาะแอ็กเซสซอรี่ที่จะบุกมากขึ้น เช่น เมาส์ ฮาร์ดดิสก์ต่อภายนอก แผ่นดีวีดี บลูเรย์ เป็นต้น เพื่อเข้ามาช่วยเสริมรายได้

ไอพอต ติดอันดับ 1 และ 2 แก๊ตเจ็ด ที่คนค้นหามากที่สุด


เว็บไซต์สืบค้นข้อมูลรายใหญ่ของโลก "ยาฮู!" เปิดผลการเก็บสถิติรายชื่อการจัดอันดับ 10 สินค้ากลุ่มอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก หรือ "แก็ดเจ็ต" ที่นักท่องอินเตอร์เน็ตทั่วโลกเข้ามาค้นหามากที่สุดตลอดทั้งปี 2551 ดังนี้
          1. i-Phone : "ไอโฟน" โทรศัพท์มือถือสุดไฮเทคจากค่ายแอปเปิ้ล สหรัฐอเมริกา 
          2. iPod Nano : เครื่องเล่นเพลง ไอพ็อดนาโน จากค่ายแอปเปิ้ลเช่นกัน
          3. Wii : "วี" เครื่องเล่นเกมจากค่ายนินเทนโด ประเทศญี่ปุ่น ปฏิวัติวิธีเล่นเกมให้คนได้ออกกำลังกายไปด้วยพร้อมๆ กัน
          4. In-car GPS : ระบบจีพีเอส-หาพิกัดบนพื้นโลกผ่านดาวเทียมแบบติดตั้งในรถยนต์
          5. Nokia N95 : โทรศัพท์มือถือ รุ่น "เอ็น 95" ของค่ายโนเกีย คู่แข่งสมน้ำสมเนื้อกับไอโฟน
          6. DS Lite : "ดีเอส ไลต์" เครื่องเล่นเกมขนาดพกพาเล็กกะทัดรัดของค่ายนินเทนโด 
          7. Sony PSP : เครื่องเล่นเกมสวยหรู รุ่น "พีเอสพี" ของบริษัทโซนี่ ประเทศญี่ปุ่น รองรับการเชื่อมต่อระบบไว-ไฟ หรือเครือข่ายไร้สาย
          8. Lumix : กล้องถ่ายรูประบบดิจิตอล รุ่น "ลูมิกซ์" ของบริษัทพานาโซนิก
          9. RAZR V3 : "เรเซอร์ วี3" โทรศัพท์มือถือรุ่นบางเฉียบได้ใจจากบริษัทโมโตโรลา
          10. Dopod 838 : ถือเป็น "ม้ามืด" ที่ทีมงานยาฮู! ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมีชื่อติดกลุ่มอยู่ด้วย มือถือ "ดูพอด 838" มีจุดเด่นตรงระบบปฏิบัติการวินโดวส์ โมบาย 5.0 และรองรับเครือข่ายมือถือยุค "3.5 จี"

Thursday, January 8, 2009

Sonic Impact IF5 ลำโพงพกพาคุณภาพสูงสำหรับ iPod



ผู้ที่หลงใหลในเสียงดนตรีไม่ควรพลาดกับ Sonic Impact IF5 ลำโพงแบบพกพาที่จะทำให้คุณได้แบ่งปันเพลงโปรดร่วมกับเพื่อนๆหรือผู้ที่อยู่รอบข้างได้อย่างง่ายดาย ใช้ได้กับ iPod ทั้งรุ่น iPod nano , iPod Mini , iPod video และ iPod touch
Sonic Impact IF5 เป็นลำโพงแบบกระเป๋าที่พกพา ปิดด้วยซิบ พับเก็บง่าย ถูกออกแบบด้วยสไตล์เรียบหรู ใช้วัสดุที่แข็งแรงทนทาน ช่วยรักษาและป้องกันระบบเครื่องเสียงที่อยู่ภายใน ในขณะเดินทางได้เป็นอย่างดี มีดอกลำโพงแบบนิโอดีเนียม ขนาด 2 นิ้ว และ ขับเสียงจาก iPod ผ่านขั้ว Stereo Mini เพิ่มความสะดวกสบายในการรับฟังเพลงด้วย Remote Control พร้อมทั้งใช้พลังงานจาก AC Adapter นอกจากนี้ยังสามารถชาร์จพลังงานให้กับ iPod ไปในตัวได้อีกด้วย นับว่า Sonic Impact IF5 เป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับคนที่ชื่นชอบการฟังเพลงแบบพกพาอย่างแท้จริง พบกับ Sonic Impact IF5 ลำโพงพกพาคุณภาพสูงสำหรับ iPod ได้ที่ iStudio และ iBeat by comseven

iPod's "father" resigns


Apple announced recently that the employee credited with being the "father of the iPod" is stepping down from his post at the iconic California company. 
          Apple said iPod division vice-presidet tony Fadell and his wife, Danielle Lambert, who is vice-president of the compay's human resources department, are "reducing their roles" to "devote more time to their young family." 
          While the spotlight routinely shines on Apples's notoriously involved chief executive Steve Jobs, Fadel is said to be the one behind the idea for iPod MP3 players that rocketed to global success and revived the company's fortunes. 
          "Tony and Dani have each made important contributions to Apple over the past eight years," Jobs said in a release. 
          IBM executive Mark Papermaster has been hired to replace Fadell. Papermaster's former employer is challenging the move on the grounds Papermaster is contractually restricted from working for a competitor. AFP

Apple goes live across Asia


          Apple inaugurated an online shop for the Land of Smiles on November 11. This has been long-overdue for Thailand. http://store.apple.com/th

          Customers can now choose from the complete line of Macs and iPods as well as a wide array of accessories all priced in Thai baht. Apple software is also available. The Apple online store offers the same options for customising Macs that were available elsewhere, as well as the service for personalised iPod engraving.

          Shipping is free for online orders over 2,000 baht and the store also has discounts for education purchases, made by teachers and students. Apple has a list of on;ine conditions for those who are eligible to use this service. http://store.apple.com/Catalog/Singapore/Images/tcTHedu.htm

          Coming up to the New Year period, through the Apple online store, Red Special Edition iPod models are now available for the first time officially in Thailand.

          Customers who order a Mac or iPod through the Apple online store will receive a limited edition Apple T-Shirt (while stocks last) to commemorate the opening. Of course you have to be in Thailand to get this and there is only one size: "L".

          The number for telesales from inside Thailand is 001-800-65-6957 during normal working hours. Queries and orders made using the phone line can be dealt with in Thai or English.

          There is more information on services online. http://store.apple.com/th/browse/home/campaigns/hello - xborder?mco=MjUzMTA4OQ

          The same day the Thai shop came online, an Apple online shop for the Philippines also started.  By the following Friday there were Apple online stores for Indonesia, Malaysia and Vietnam also available, all with prices shown in the local currency.

          http://store.apple.com/ph

          http://store.apple.com/id

          http://store.apple.com/my

          http://store.apple.com/vn

iStudio by comseven เผยโฉมสินค้าใหม่จาก Apple ในงาน Commart Comtech Thailand 2008


iStudio by comseven เผยโฉมสินค้าใหม่จาก Apple ไม่ว่าจะเป็น New MacBook, New MacBook Pro และ New iPod Family ในงาน Commart Comtech Thailand 2008 ณ บูธ P24-P28 Plenary Hall พร้อมชูจุดเด่นอุปกรณ์เสริมครบครันและตอบสนองทุกความต้องการในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับ MacBook, MacBook Pro, iPod ใน Gen ต่างๆที่ทาง iStudio by comseven นำมาจำหน่ายในราคาพิเศษเอาใจลูกค้า Apple ตัวจริง นอกจากนี้ยังเอาใจลูกค้าที่ต้องการผ่อนสบายๆไร้ดอกเบี้ย 0% อีกด้วย